ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางที่บ้านของนาย ชวลิต เจือจันทร์ อายุ35ปีบ้านเลขที่141บ้านน้อยหมู่ที่13ตำบลช่างปี่อำเภอศีขรภูมิ   จังหวัดสุรินทร์  หลังจากทราบว่า เจ้าของบ้าน ได้ทำการปลูกผักจำพวกกรีนคอส  เรดคอส กรีนโอ๊ค เรตโอ๊คมินิคอส บัสเตอร์เฮดพร้อมขยายพันธุ์ผักชีคึ่นช่าย  อย่างต่อเนื่องภายในบริเวณพื้นที่บ้านของตนเอง  

นายชวลิต เผยว่าตนเองมีอาชีพทำนา  เช่านาเขาทำจำนวน14ไร่  หลังจากที่เสร็จจากการทำนาก็รับจ้างเขาไถนาตามหมู่บ้านต่างๆที่เขาจ้างไถ หลังจากนั้นก็มาศึกษาหาความรู้จากเพจต่างๆโดยการเข้าไปดูในเรื่องของการทำเกษตรไร่นาส่วนผสมตามพื้นที่ต่างๆหลังจากนั้นก็นำมาวิเคราะห์และทดลองปลูกและใช้ดู บางอย่างก็ดี บางทีก็ปรากฏว่าการปลูกพืชผักต่างๆในช่วงหน้าร้อนย่างเข้าสู่หน้าฝนนั้นบางครั้งก็ทำใจโดยเฉพาะจำพวกผักที่กล่าวมาข้างต้นส่วนมากจะมีผลผลิตใตในช่วงหน้าหนาว

โดยการไปศึกษาและค้นหาเมล็ดพันธุ์ต่างๆตามเพจจนกระทั่งได้ทดลองนำมาปลูกประกอบและนำใช้ดูก็ได้ผลผลิตที่ออกมาได้ดีจึงได้ทำการขยายแปลงออกไปอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมีพี่น้องประชาชนภายในหมู่บ้านและตลาดร้านค้าต่างๆทราบว่าตนเองปลูกพืชผักปลอดสารเคมี ได้ติดต่อมาขอซื้อไปกินและนำไปจำหน่ายแทบจะไม่พอขายเลยทีเดียว

นายชวลิตยังบอกว่าตนเองเรียนจบมาเพียงชั้นประถมปีที่6 หลังจากนั้นก็ได้  ภรรยา  อยู่ที่ตำบลช่างปี่   มีลูกแล้วจำนวน2คนในระหว่างการทำงานรับจ้างก็หารายได้เสริมกันมาอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง   พอมีรายได้โดยผักที่ปลูกจะสามารถเก็บได้ภายใน40-45วัน   เราจะนำไปขายหรือไม่ก็มีคนมารับซื้อที่บ้าน

ถ้าหากพี่น้องที่อยากสนใจจะมาทำการศึกษาหรือจะมาศึกษาหาความรู้ก็สามารถมาศึกษาได้เราจะไม่หวงเพราะทุกวันนี้ัเรามีรายได้จาการขายผักตกไปประมาณกิโลกรัมละ30-40 บาท   ขายหมดทั้งแปลงก็ประมาณ -6 พันบาทถือว่าพอเพียงกับการอยู่ทำมาหากินอย่างนี้และในอนาคตก็คงจะขยายแปลงออกไปอีกคาดว่าอนาคตคงจะต้องมีรายได้นับหมื่นต่อเดือนเลยทีเดียวนายชวลิตกล่าว