เมื่อเวลา15.30น.วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)โชคนาสาม เกิดเหตุพายุฝนลมกันโชคแรงพัดกระหน่ำหลังคาบ้านเรือนประชาชนและพัดหลังคาคอกวัวบริเวณที่ไถ่ชีวิตโคกระบือและหลังคาศาลาธรรมกุฏิวัดสามราษฎร์บํารุง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พังเสียหายยับเยินและส่งผลให้กระแสไฟฟ้าหลายจุดดับเป็นบริเวณกว้าง

สถานที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักอาศัยของ นายสนองชัย เครือศรี อายุ 71 ปี บ้านเลขที่79 ประชากรหมู่ที่ 9 บ้านตาเดอะ ตำบลโชคนาสาม อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จากการตรวจสอบพบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนกว่า 5 หลังคาเรือน สำรวจเบื้องต้นพบว่าใกล้เคียงกันบริเวณหน้าศาลาธรรมกุฏิ วัดสามราษฎร์บํารุง และหลังคาโรงเลี้ยงวัวไถ่ชีวิตโคกระบือ ได้รับความเสียหายถูกพายุฝนลมกระโชกแรงพัดเอาหลังคาเปิดได้รับความเสียหาย โชคดีที่ประชาชนรวมไปถึงพระสงฆ์และสัตว์เลี้ยงโคกระบือ ปลอดภัยไม่ได้รับอันตราย มีแค่เพียงทรัพย์สินบ้านเรือนรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย จากการถูกน้ำฝนที่ตกลงเปี๊ยกชื้น ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้  อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้องจากทางองค์การบริหารส่วนตำบลโชคนาสาม จะได้เร่งดำเนินการเข้าตรวจสอบประเมินค่าความเสียหายเพื่อช่วยเหลือประชาชน ต่อไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าของบ้านสองสามีภรรยา ทราบชื่อ ยายคำเผือย เครือศรี อายุ 69 ปี เป็นภรรยาของ ตาสนองชัย เครือศรี เจ้าของบ้านที่ถูกพายุถล่มพังเสีย เล่าเหตุการณ์วินาทีพายุพัดถล่มให้ฟังว่า ขณะที่เกิดเหตุ รอบแรกมีเพียงฝนตกหนักมาก ในเวลาต่อมาเวลาไล่เลี่ยกันไม่นานนักเริ่มมีพายุลมพัดกันโชคแรงขึ้นเรื่อยๆลักษณะคล้ายพายุลมหมุนพัดเข้ามาอย่างรวดเร็วกระทันหัน ขณะนั้นตนตกใจจึงได้วิ่งไปหลบพายุอยู่ภายในห้องครัว ต่อมาได้ยินเสียงดังจากบนหลังคาบ้านตนเหลือบไปเห็นข้างบนชั้นสองมีหลังคาถูกพายุพัดสังกะสีปลิวออกจากตัวบ้านจึงรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงได้ตะโกนเรียกตาและพากันวิ่งไปหลบมุมแคบๆตรงประตูห้องครัว พอพายุสงบจึงได้ออกมาตรวจสอบและแจ้งทางผู้นำชุมชน โชคดีไม่มีใครได้รับอันตรายใดๆ 

ด้าน พระวรเมธ เตชะธัมโม เป็นพระลูกวัดสามราษฎร์บํารุง ตำบลโชคนาสาม ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะนั้นได้เกิดพายุฝนและลมกระโชกแรงพัดหลังคาด้านหน้าศาลาธรรมกุฏิ ถูกแรงลมพายุพัดถล่มลงมาพังเสียหาย ถัดไปยังพบว่ามีคอกวัวสถานที่ไถ่ชีวิตโคกระบือ ภายในวัดสามราษฎร์บํารุง ถูกลมพายุพัดหลังคาสังกะสีปลิวหลุดพังเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ถัดไปไม่ไกลกัน ยังมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 4-5 หลังคาเรือน ซึ่งถูกพายุพัดกระหน่ำนานกว่า นานนับชั่วโมง

หลังจากที่พายุสงบลง นายจันทร์ทอง ทะนงตน นายก อบต.โชคนาสาม ได้เร่งประสานให้เจ้าหน้าที่ผู้นำชุมชนพร้อมหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย อบต.โชคนาสาม ลงพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจค่าความเสียหายรวมทั้งช่วยรื้อและเก็บซากหลังคาบ้านเรือนชาวบ้านที่ถูกแรงลมพัดพังเสียหาย เพื่อรายงานขอสนับสนุนทำการซ่อมแซม และแก้ไขระบบไฟฟ้าเพื่อให้กลับมาใช้เป็นปกติ อีกทั้งได้สำรวจความเสียที่เกิดขึ้น เพื่อแจ้งฝ่ายปกครองอำเภอปราสาทและหน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดสุรินทร์  เพื่อขอสนับสนุนถุงยังชีพสิ่งของเพื่อเยียวยาช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วนต่อไป

ขณะเดียวกันในเขตพื้นที่ในเมืองสุรินทร์ และรอบนอดเมืองสุรินทร์ ได้เกิดฟ้าคะนองอย่างรุนแรง เกิดลมกระโชกแรง จากนั้นนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ต้นไม้หักโค่นล้มทับสายไฟฟ้าขาด ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 2 ชั่วโมง เป็นบริเวณกว้าง ในเขตรอบนอกเมืองสุรินทร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุรินทร์ ได้เร่งซ่อมสายไฟฟ้าที่ขาดและเสาไฟฟ้าหัก จนกระทั่งสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ใช้ในช่วงค่ำมืดของวันนี้