วันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้งพร้อมด้วย นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวสรุปภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ พร้อมขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ร่วมออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566

นายอิทธิพร กล่าวว่าในการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั่วประเทศ 52,238,594 คน คิดเป็นจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ 75.22% ถือว่าเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ที่ กกต.เคยจัดการเลือกตั้งมา 7 ครั้ง โดยในปี2562 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งโดยเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่74.87%

ทั้งนี้ การที่มีผู้มาใช้สิทธิ์สูง ถือเป็นตัวเลขที่น่ายินดีซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองและทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมายมากยิ่งขึ้นซึ่งข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในปี 2562 มีหลายประเด็นและได้รับการแก้ไข ไม่ให้เกิดขึ้นอีก ส่วนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ที่การรายงานผลการนับคะแนนล่าช้าไปมากจากที่ประเมินไว้ว่าจะจบที่22.00-23.00 น.เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้เกิดความถูกต้องเพื่อให้มีความมั่นใจว่าข้อมูลที่แชร์สู่สาธารณะถูกต้องที่สุด ตนขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งที่ร่วมกันจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

นายอิทธิพร กล่าวว่าสถานการณ์ภาพรวมการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาในมุมมองของ กกต.เห็นว่าเป็นไปโดยเรียบร้อย แต่มีจ.นครปฐมต้องปิดประกาศงดการลงคะแนน1หน่วย คือหน่วยที่ 10 หมู่ที่ 8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม ถูกพายุฝนทำให้เต็นท์ล้มเสียหายไม่สามารถดำเนินการลงคะแนนเลือกตั้งได้

ส่วนรายงานการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอื่นๆ พบว่า มีการฉีกบัตรเลือกตั้ง 24 ราย จำหน่ายสุราในช่วงที่กฎหมายห้าม 7 ราย , ถ่ายรูปบัตรที่เห็นเครื่องหมายลงคะแนน 4 ราย ส่วนคำร้องเรียนจนถึงเวลา09.00น.วันที่ 15 พ.ค.รวมทั้งสิ้น 168 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง 59 เรื่อง,หลอกลวงใส่ร้าย 58 เรื่อง เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบ 18 เรื่องและเรื่องอื่นๆ เช่นกันฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งและพรรคการเมืองในหลายๆมาตรา ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับปี 2562 คำร้องเรียนมีทั้งหมด 592 เรื่อง ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าผู้เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งพยายามปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ทำการฝ่าฝืนกฎหมาย จึงหวังว่าตัวเลขการร้องเรียนจะไม่สูงมากกว่าปี2562

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสามารถแจ้งเหตุไม่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 21 พ.ค.นี้ ที่สถานีอำเภอหรือแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่น Smart Vote

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงกระบวนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งว่าตามกฎหมายกำหนดให้กกต.ประกาศรับรองผลภายใน60วันซึ่งภายใน 5 วันนี้จะมีการตรวจสอบความถูกต้องและจากนั้นจะตรวจสอบว่าผู้ได้รับการเลือกตั้งมีข้อร้องเรียนว่า มีการกระทำใดที่ทำให้การเลือกตั้ง ไม่สุจริต เที่ยงธรรมหรือไม่ ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาโดยทั้งหมดต้องใช้เวลาภายในกรอบ 60 วัน

ประธานกกต.กล่าวอีกว่า ในการพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงนั้น กฎหมายกำหนดว่าก่อนการประกาศผล กกต.มีอำนาจให้เฉพาะใบส้ม หรือ ระงับสิทธิสมัครชั่วคราว แต่ถ้าหลังการประกาศผลแล้ว จะเป็นการให้ใบแดงคือการเพิกถอนสิทธิ์การเลือกตั้ง หรือใบดำ การเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งขึ้นอยู่กับว่า กกต.เห็นว่าผู้กระทำผิดนั้นต้องรับโทษอะไรบ้าง แต่ทั้งหมดจะต้องเสนอให้ศาลฎีกาพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รายงานผลการนับคะแนนทั่วประเทศ ณเวลา 12.36 น.(15 พ.ค.) พบว่าคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออย่างไม่เป็นทางการ พรรคก้าวไกล มาเป็นอันดับ 1 จำนวน 14,172,211 คะแนน อันดับที่ 2 เป็นพรรคเพื่อไทย 10,801,620 คะแนน อันดับที่ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ 4,667,913 คะแนน อันดับที่ 4 พรรคภูมิใจไทย 1,118,870 คะแนน อันดับ 5 พรรคประชาธิปัตย์ 897,689 คะแนน อับดับ 6 พรรคประชาชาติ 570,090 คะแนน อันดับ 7 พรรคพลังประชารัฐ 528,610 และอันดับ 8 พรรคเสรีรวมไทย 346,025

ขณะที่ ผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต อย่างไม่เป็นทางการ อันดับ 1 พรรคก้าวไกล ขยับเป็น 113 เขต อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 112 เขต อันดับ 3 พรรคภูมิใจ 67 เขต อันดับ 4พรรคพลังประชารัฐ 39 เขต อันดับ 5 พรรครวมไทยสร้างชาติ 23 เขต อันดับ 6 พรรคประชาธิปัตย์ 22 เขต อันดับ 7 พรรคชาติไทยพัฒนา 9 เขต และอันดับ 8 พรรคประชาชาติ 7 เขต