วันที่ 5 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดชัยประโคม บ้านเสม็ดน้อย หมู่ที่ 6 ตำบลสลักได อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีพระสงฆ์วัย 59 ปีได้มรณภาพภายในวัดในสภาพที่เปลือยกาย ในช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 พฤษภาคม 2566ที่ผ่านมา เนื่องจากสงฆ์รูปดังกล่าว เป็นโรคปอด ต้องใช้พัดลมในการระบายอากาศตลอดเวลายิ่งในช่วงที่มีอากาศร้อน แต่ในช่วงกลางดึกได้เกิดเหตุไฟดับ  ซึ่งได้รับแจ้งว่าสาเหตุของไฟดับครั้งนี้ เกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ ชนเสาไฟฟ้า ในพื้นที่ห่างจากวัดประมาณ 1 ก.ม.และมาทราบภายหลังว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ พ.ต.ท.นายหนึ่ง ความรับผิดชอบ ระดับรองผู้กำกับ สภ.แห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ที่เมาแล้วขับไปชนท้ายรถกระบะแล้วไปชนเสาไฟฟ้า จึงทำให้เกิดไฟฟ้าดับบริเวณกว้างกว่า 20 กิโลเมตร ซึ่งตำรวจในพื้นที่ก็อยู่ในระหว่างดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่วัดชัยประโคม พบว่าภายในวัดมีการจัดงานศพ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าและเงียบเหงา ทราบชื่อพระที่มรณภาพ  คือ พระบุญจัด อาสโญ (อา-สะ-โย) อายุ 59 ปี ซึ่งบวชอยู่ที่วัด 8 พรรษาแล้ว เป็นโรคปอดหายใจไม่ค่อยสะดวก ต้องใช้พัดลมอยู่ตลอดเวลา และเดินไม่ได้ ต้องใช้รถไฟฟ้าเวลาไปไหนมาไหน บริเวณที่นอนพบว่าจะมียาพ่น ยาเม็ด และยาน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก พร้อมกับบริเวณที่นอนจะมีพัดลมอยู่ 1 ตัว

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพระลูกวัด ทราบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุไฟดับ พระบุญจัดก็ได้ขับรถไฟฟ้าออกมาคุยกับพระรูปอื่นๆเหมือนปกติ แล้วก็บ่นว่าไฟดับอากาศก็ร้อน หายใจไม่ค่อยทัน เพราะว่าไม่มีไฟในการใช้พัดลมเพื่อพัดระบายอากาศ หลังจากนั้นก็เข้ากุฏิจำวัด ตามปกติ ช่วงเช้า พระลูกวัดแต่ละรูปก็ออกบิณฑบาตรในช่วงเช้าเป็นประจำและได้นำอาหาร ไปถวายให้พระบุญจันทร์ ได้ฉัน แต่ไปพบว่าพระบุญจันทร์ได้ถอดจีวรออกหมด นอนอยู่ในสภาพเปลือยกาย เนื่องจากอากาศร้อนและไม่มีพัดลมในการพัด พบว่าเสียชีวิตแล้ว

พระสมบัติ อธิปัญโญ อายุ 42 ปี พระลูกวัดชัยประโคม เปิดเผยว่า ตอนแรกคิดว่าไฟดับธรรมดา แต่มาทราบอีกที ว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า อากาศร้อนอบอ้าวก็เลยพากันออกมาอยู่ข้างนอก พระรูปที่มรณะท่านเดินไม่ได้ แต่ว่านั่งรถไฟฟ้าออกมาคุยด้วย ในช่วงกลางดึกก็ดับอีกรอบ แล้วก็แยกย้ายกันเข้ากุฏิ พอถึงช่วงเช้าก็ออกบิณฑบาตปกติ หลังจากออกบิณฑบาตมาก็เอาอาหารไปถวายให้เหมือนทุกครั้ง ก็ไปพบว่าท่านนอนในสภาพที่เปลือยกาย คือถอดจีวรออกทั้งหมดไม่ได้ใส่อะไรเลย คาดว่าคงจะร้อนมากและร้อนข้างในแรง และท่านก็มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคปอดด้วย แล้วเมื่อคืน ประกอบกับอากาศที่ร้อนมาก ร้อนจัดน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านถอดจีวรออกทั้งหมด เพราะเอาอาหารไปให้ท่านฉันเช้าเรียกก็ไม่ตอบ พอมองดูท่าน ท่านนอนเปลือยกาย โดยปกติท่านจะไม่เคยนอนเปลือยกาย ก็เลยสัมผัสดู ปรากฏว่าท่านได้มรณภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วัดนี้พระมรณะไปแล้ว 3 รูปในช่วงฤดูร้อน ประกอบกับสภาวะอากาศที่ร้อนมากและร้อนจัด ก็จะเป็นช่วงๆนี้เลยที่พระ 3 รูปที่มรณภาพไป จะร้อนอบอ้าวมากในช่วงกลางคืนมันเหมือนกับจะบายความร้อนออกมาจากพื้น และก็ไม่มีลมกรรโชกอะไรเลย อบอ้าว มากคล้ายๆกับเตาอบเลยก็ว่าได้ ถือว่าอยู่ได้ยากมากสำหรับคนที่มีโรคประจำตัวหรือคนที่ป่วยและคนชราด้วย