วันนี้(1 พ.ค.66) เวลา 13.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยแกนนำพรรค นางสาวภคอร จันทรคณา อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พล.ท.อัศวิน รัชฏานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค ดร.อนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันย์ผาสุก นางสาวเยาวเรศ ชินภักดี เจ้าหน้าที่พรรค ได้เดินทางมาหาเสียงกับประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ เพื่อให้สนับสนุนเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ เนื่องจากทางพรรค ไม่ได้ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในระบบเขตเลือกตั้ง ทั้ง 8 เขต ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์
โดยคณะของ “ เต้ ” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมาถึงเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ได้เข้าสักการะกราบไหว้ศาลหลักเมืองจังหวัดสุรินทร์ พร้อมได้ไปกราบไหว้ขอพร ศาลปะกำช้างซึ่งเมืองสุรินทร์ เป็นเมืองช้าง ผู้ที่จะคล้องช้าง หรือควบคุมช้างได้ หรือทำกิจการณ์ใหญ่โตมีพลังมากจะต้องเซ่นไหว้ศาลปะกำช้าง ที่บรรดาชาวช้างให้ความเคารพนับถือมายาวนาน และกราบไหว้ขอพรจากอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง (พระยาสุรินทร์- พักดี-สี-นะ-ลง-จาง-วาง)ผู้ก่อตั้งเมืองสุรินทร์ คนแรกเพื่อขอพร ขอให้ประสบผลสำเร็จ ให้ได้รับเลือกตั้งแบบบัญชีรายได้ให้ได้มากที่สุด
หลังจากนั้นได้ขึ้นรถหกล้อปราศรัยหาเสียงแนะนำนโยบายของพรรค ที่จะช่วยเหลือประชาชนละพัฒนาประเทศไทย ไปตามถนนธนสาร(ทะ-นะ-สาน) ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และหยุดรถหาเสียงที่บริเวณด้านตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์ จากนั้นได้ตระเวนหาเสียงไปตามถนนหลักเมืองจนสิ้นสุด โดยมีพี่น้องประชาชน ได้รับฟังเสียง นโยบายของพรรค ตามรายทาง ตามร้านค้า ต่างๆตลอดเส้นทางจนสิ้นสุดการขึ้นรถหาเสียงที่ถนนหลักเมือง
“ เต้ ” นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ กับผู้สื่อข่าว ว่าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไม่ได้ส่งผู้สมัคร ทั้ง 8 เขต พื้นที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ก็ต้องมาหาเสียงกับประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ให้รับทราบนโยบายพรรค ไทยศรีวิไลย์ เบอร์ 42 ซึ่งทางพรรคมีนโยบาย ในการตั้งนิคมเกษตรกรรม ประจำจังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอื่นๆที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรม เหมือนกับการตั้งนิคมอุตสาหกรรม มีการตั้งกองทุนไว้ช่วยเหลือเกษตรกร จะได้ดูแลพี่น้องชาวเกษตร ด้านหนี้สิน จากกองทุนฟื้นพูเกษตรกรรม รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำในด้านการเกษตร รวมทั้งการชื้อหุ้น ปตท.กลับคืนมา ออกพรก.ตั้งกองทุนขึ้นมา ประมาณ 1.5 ล้านล้าน ชื้อหุ้น ปตท.มา 49% ทั้งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติก็จะถูกลง ปตท.ไม่ต้องมีกำไรเยอะ ช่วยประชาชนทั้งราคาน้ำมันและแก๊สจะได้ลดราคาลง นโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ จะเน้นไปที่เรื่องปากท้องประชาชน เรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องหลัก
ส่วนในด้านความมั่นคง พรรคไทยศรีวิไลย์ มีจุดยืนที่ชัดเจน ไม่เหมือนพรรคการเมืองอื่นเขาก็ชัดเจนของเขา มีแต่พรรคก้าวไกล ที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไปแปะสติ๊กเกอร์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2566 ถ้าแก้ไขไม่สำเร็จก็จะยกพวกมาเลิก มาตรา 112 ให้มีอัตราโทษระหว่างสถาบันกับประชาชน ให้เท่ากัน มันเป็นไปไม่ได้ประเทศไทยมีรากเหง้ามีหลักการสำคัญ ประเทศไทยมีหลักสำคัญคือมีพระมหากษัตริย์ มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สถาบันอยู่กับประเทศไทยมาแล้วกว่า 800 ปี ไม่มีพระมหากษัตริย์ เราก็ไม่มีผืนแผ่นดินไทยอยู่ทุกวันนี้ได้เรามีจอมทัพคือพระมหากษัตริย์ ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 3 ก็ไม่มีเงินไถ่ถอนประเทศ ถ้าไม่มีรัชกาลที่ 5 ก็ไม่มีเสรีภาพ ไม่มีอธิปไตย เป็นของตัวเองเหมือนในปัจจุบัน ประเทศไทยมีรากเหง้ามีจุดยืนชัดเจน ต้องไม่แก้ไขไม่ยกเลิกมาตรา 112อยากเตือนผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล หาเสียงไปเปิดประชาพิจารณ์ เกี่ยวกับสถาบัน เกี่ยวกับภาษี มันไม่ถูกต้อง มีอะไรอีกเยอะ เป็นการชี้นำเยาวชน ที่ไม่ถูกต้อง ผมรับไม่ได้ คนรุ่นใหม่คิดก่อกบฏในประเทศไม่สมควรคิด อีกอย่างชายแดนก็จะมีปัญหากันแล้ว กับประเทศเพื่อนบ้าน มีการจะแย่งเกาะกูด ไปจากประเทศไทย ต้องมีทหารไว้ปกป้องประเทศไทย มีหลายคนอยากให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้วให้มีทหารประจำการ ซึ่งเราต้องเข้าใจประเทศก่อนว่า ในเรื่องรายรับกับรายจ่ายของประเทศ ซึ่งมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ซึ่งต้องบริหารจัดการเรื่องงบด้านนี้
ส่วนการร่วมรัฐบาลกันหลังเลือกตั้ง ในส่วนในพรรคเพื่อไทยก็จะขอดูความชัดเจน ว่าพรรคเพื่อไทยจะเอาอย่างไร ไม่แตะต้องไม่ยกเลิกมาตรา 112 ให้ชัดเจนเสียก่อน ส่วนพรรคก้าวไกล นโยบายในเรื่องสังคม เศรษฐกิจ ร่วมได้ แต่เรื่องมาตรา 112 ต้องคุยกันว่าคุณอย่าทำเรื่องนี้นะ คุณไม่สมควรทำด้วยไปทำเรื่องปากท้องประชาชนไปหาเงินเข้าประเทศดีกว่า คุณธนาธร กับคุณปิยะบุตร คิดอะไรแปลกๆไม่เหมือนชาวบ้านเขา
©2018 CK News. All rights reserved.