ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส. 11 สมัยพรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัครสส.เขต 4 ออกปราศรัยโค้งสุดท้ายมั่นใจได้เป็น ส.ส.แน่นอน เพราะนโยบายพรรคเพื่อไทย และผลงานลงพื้นอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในช่วงยึดอำนาจของ คสช. กว่า 5 ปี  หัวใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจเงิน  แต่เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ชาวบ้านรับเงินมาแต่กาเพื่อไทย

ที่ลานวัดเหนือ ตำบลกลาง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส. 11 สมัย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 14 เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งสู่สภาผู้แทนราษฏร 24 มีนาคม 2562  มีประชาชนและแฟนคลับแห่มาขอถ่ายรูปและฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น โดยนายนิรันดร์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า พร้อมประกาศสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย ด้วยนโยบาย แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศภายใน 6 เดือน  สานต่อโครงการที่เป็นประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท  30 บาทรักษาทุกโรค 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตรให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย ยางพารา  และสินค้าเกษตรอื่นๆ

นายนิรันดร์ กล่าวว่า เลือกตั้งคราวนี้มั่นใจในผลงานในอดีตของพรรคเพื่อไทยและมั่นในในผลงานของตัวเองซึ่งอยู่กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดไม่เคยทิ้ง แม้ว่าช่วงในการปฏิวัติรัฐประหารการยึดอำนาจของ คสช.ไป 5 ปี  ตนอยู่กับพี่น้องประชาชนช่วยเหลือไม่ว่างานเล็กงานน้อยตนเข้าไปทุกพื้นที่ ก็เลยมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่เลือกตั้งที่ 4 มีความเป็นธรรม ยุติธรรมต่อการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายนของพรรคเพื่อไทย ในอดีตเราเคยมีผลงานตัวนี้พี่น้องประชาชนถึงเกิดความมั่นใจต่อพรรคเพื่อไทย และอยากให้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาล อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี ตรงนี้เป็นหัวใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเราต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐ อำนาจเงิน  นี่เป็นสิ่งที่หนักหน่วง แต่ตนเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ชาวบ้านรับเงินแต่ไม่กา "รับเงินมากาเพื่อไทย" นี่คือมั่นใจตรงนี้  เพราะนโยบายของเราชัดเจน และเป็นนโยบายที่ทำได้ แล้วสามารถปฏิบัติได้ ยกตัวอย่างเช่นผลงานที่พวกเราเคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้าน 30 บาทรักษาทุกโรค 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และอีกหลายๆอย่างที่ทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราคาผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นข้าว อ้อย ยาง พารา ทุกอย่างพวกเราได้ทำมาและพี่น้องประชาชนก็มีความสุขและมีรายได้ที่ดี เรามั่นใจในการนำเสนอนโยบายและเชื่อมั่นว่าพรรคของเรานั้นเป็นพรรคการเมืองที่เคยประกาศนโยบายอย่างไร เวลาเป็นรัฐบาลเราก็ทำได้อย่างนั้น ทำให้เกิดความศรัทธาและเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชนต่อพรรคเพื่อไทย

นายนิรันดร์ ยังกล่าวถึงกรณีถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจรัฐ ว่า ตรงนี้กังวลใจ แต่ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่าเราได้รับเกียรติจากฝ่ายผู้มีอำนาจ เพราะว่าเราไม่มีเงิน เราไม่มีอะไรที่จะเอางบไปแจกจ่ายชาวบ้าน เราเอาความดีที่เราเคยปฏิบัติเคยกระทำมา เอาผลงานในอดีตสู่อนาคตข้างหน้า ตรงนี้ไม่เกรงกลัว แต่รำคาญ รำคาญที่ทำไมรัฐบาลหรือว่าคณะรัฐประหาร คณะคสช.ทำไมถึงส่งพวกนี้มาติดตามเฉพาะพวกตนพรรคเพื่อไทย แต่ทำไมพรรคการเมืองอื่นไม่ทำ แล้วเขาแจกจ่ายเงินกันแบบไม่เกรงกลัวกฏหมายทำไมเขาทำได้ แล้วกฏหมายบ้านเมืองผู้มีอำนาจในการใช้แล้วปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมายทำไมไม่ดำเนินการตรงนี้ แล้วถามหน่อยกกต.เขาทำไปกันเต็มบ้านเต็มเมือง เขานำเสนอต่อ กกต.แจ้งกกต. กกต.บอกว่าให้พวกเราเอาหลักฐานมาให้กับ กกต. แทนที่การแจกบอกว่าใครทราบมีการทำไม่ถูกต้องตามกฏหมายในการเลือกตั้งให้แจ้งเบาะแสไป ในเมื่อเราแจ้งเบาะแสทั้งเทปทั้งอะไรไปเขาไม่รับฟัง เขาให้เราไปตามเอาหลักฐานมาเอง นี่เป็นสิ่งที่น่าคิด แต่ถ้าเป็นอย่างพวกตนไปทำอย่างที่เขาทำกันทุกวันนี้เรียบร้อยครับ ใบเหลือง ใบแดง ยุบพรรคแน่นอน แต่พวกเราไม่ทำ เราไม่มีสตางค์  ไม่มีเงิน  เราเอาแต่ความดีที่เคยทำมาในอดีต ตนสมัครรับเลือกตั้งชนะการเลือกตั้งมาแล้ว 11 ครั้ง ก็ทำหน้าที่กับพี่น้องประชาชนให้เกิดความประทับใจ สู้กับกระบวนการการเงินทุกครั้งที่เคยปฏิบัติมาที่เคยต่อสู้มา แล้วครั้งนี้หนักกว่าทุกครั้ง เยอะจริงๆเงิน เยอะมาก แต่ก็มั่นใจตัวเองว่าจะชนะการเลือกตั้ง