วันนี้ ( 18 เม.ย.66 ) เวลา 12.40 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่มีการรายงานค่าตัวเลขที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากปัจจัยต่าง ๆ ภายในประเทศ เช่น การจราจร โรงงานอุตสาหกรรม หรือการกำจัดวัชพืชโดยการเผาแล้ว ประเทศไทยยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ของประเทศเพื่อนบ้านด้วย จึงจำเป็นต้องมีการพูดคุยหารือและประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อหาทางออกและร่วมกันแก้ไข ย้ำเตือนการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและเป็นธรรม พร้อมขอความร่วมมือประชาชนละเว้นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้มากขึ้น โดยยกตัวอย่างประเทศสวีเดนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ เป็นกรณีศึกษาและเป็นบทเรียนในการดำเนินการสำหรับประเทศไทย พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ป่าชุมชน พื้นที่คนอยู่ร่วมกับป่า ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการดำเนินการมาตั้งแต่ต้น ขอให้ช่วยกันดูแลรักษาและอนุรักษ์ต้นไม้ให้เจริญเติบโตเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ของประเทศเพื่อประเทศไทยของทุกคน
นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเงินการคลังของประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี ทั่วโลกให้การยอมรับและมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพทางการเงิน และสถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ ซึ่งรัฐบาลพยายามแก้ไขและเดินหน้าขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง มีการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกวิธี ซึ่งต้องขอบคุณกระทรวงการคลังและทุกหน่วยงานที่ช่วยกันทำงานโดยไม่นิ่งนอนใจแม้จะอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ก็ยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่และขอให้ทุกกระทรวงติดตามบูรณาการงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ช่วยกันแก้ปัญหาของประเทศ และขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลด้วยความเข้าใจ เพราะไม่มีอะไรที่ทำได้เพียงฝ่ายเดียว โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามทำให้ดีที่สุด มุ่งแก้ปัญหาจากฐานรากและดำเนินการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในอนาคต เน้นการใช้จ่ายงบประมาณที่ทำให้เกิดความเชื่อมโยงเป็นการลงทุนระยะยาวตามยุทธศาสตร์ที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์ของประชาชน และเกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงในส่วนของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่มีการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีผู้ได้รับผลกระทบร้องเรียนจำนวนมากขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกันช่วยกันแจ้งเหตุและเป็นหูเป็นตา ซึ่งขอย้ำว่ารัฐบาลไม่ปล่อยปละละเลยและจะดำเนินการทุกอย่างโดยไม่ปกปิด ด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด พร้อมกับนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าประเทศจะดีขึ้นได้ด้วยความรักความสามัคคีของคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ลดความขัดแย้ง และเปิดใจให้กว้างเป็นสิ่งสำคัญ ขอทุกคนช่วยให้ทำให้บ้านเมืองปลอดภัยและมีความสุข
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเวลาจากครอบครัวมาให้บริการดูแลประชาชนและอำนวยความสะดวกในการเดินทางไป-กลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวดีขึ้นตามลำดับ โดยจากรายงานผลการจัดอันดับโดย Agoda ให้จังหวัดขอนแก่นเป็นอันดับ 1 ของจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่คุ้มค่าที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้มีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยขอย้ำให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมดูแลและเฝ้าระวังสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพขอให้ดำเนินการดูแลอย่างต่อเนื่อง เน้นย้ำการตรวจ ATK และสังเกตอาการเพื่อให้สามารถดูแลตัวเองได้ทันเวลา
©2018 CK News. All rights reserved.