เพจหนังสือพิมพ์ข่าวระยอง รายงานว่าได้รับแจ้งพบหม้อดินเผามีผ้ายันต์สีแดงลงอักขระภาษาเขมรปิดปากหม้อ ลอยมาติดท่าน้ำ บริเวณ ท่าทางน้ำสุสานบางจาก ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนายวิชญาพร บุญกลั่น เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครระยอง
เมื่อลงไปริมตลิ่งแม่น้ำระยอง พบกับหม้อดินขนาด 20 ซม.มีผ้ายันต์สีแดงปิดปากหม้อมิดชิดโดยมีอักขระยันต์คล้ายอักษรบาลีและอักษรเขมรเขียนกำกับไว้ที่ผ้ายันต์สีแดงตรงปากหม้อ จึงใช้ไม้เขี่ยหม้อดินเข้ามาใกล้ตลิ่ง แต่ก็ไม่มีใครแตะต้อง หวั่นวิญญาณออกมา จึงได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆ โดยมีชาวบ้านได้มามุงดู และ วิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา โดยเชื่อว่าเป็นหม้อสะกดวิญญาณ จึงยิ่งทำให้บรรยากาศชวนขนหัวลุกขึ้นไปอีก
จนกระทั่งนายสัมฤทธิ์ พยุงไพสิฐ อายุ 61 ปี ชาวบ้านที่มามุงดู ได้เดินเข้ามา พร้อมขออาสาเปิดหม้อเอง ท่ามกลางชาวบ้านที่รอลุ้นกันอยู่ห่างๆ เพราะต่างหวาดกลัว เพราะคิดไปถึงหม้อแม่นาค หลังจากที่ใช้มือค่อยๆแกะสายสิญญ์ ที่รัดผ้ายันต์กับปากหม้อไว้ออก พบว่าภายในหม้อมีเทียนไขสีเหลืองที่จุดใช้แล้ว จำนวน 2 เล่ม วางอยู่ในหม้อ หลังจากที่ตรวจสอบ จึงโยนหม้อดินลงไปในแม่น้ำระยอง ให้ลอยต่อไป ตรวจสอบรอบบริเวณพบว่ามีธูปปักอยู่ริม แม่น้ำระยองห่างจากจุดที่พบหม้อดิน ประมาณ 5 เมตร
ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่างเชื่อว่าเป็นการทำพิธีด้านไสยเวทย์ของแรงงานชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่หลังสุสาน และ ริมแม่น้ำระยอง เชื่อเป็นการสะกดวิญญาณใส่หม้อดินปิดผ้ายันต์กำกับไม่ให้วิญญาณออกมา จึงไม่มีใครกล้าแตะต้อง เพราะกลัววิญญาณในหม้อเล่นงาน และ เชื่อว่าหลังจากเปิดหมัอก็เท่ากับปลดปล่อยวิญญาณออกจากหม้อ ต่างก็กลัวว่าวิญญาณจะออกมาหลอกหลอน
ด้านนายสัมฤทธิ์ ผู้ที่เปิดปากหม้อ ได้เปิดเผยว่า หม้อดินดังกล่าวเป็นหมัอสะกดวิญญาณไว้ภายใน เมื่อเปิดออกวิญญาณได้รับการปลดปล่อย ก็เท่ากับช่วยเหลือวิญญาณให้เป็นอิสระ จึงไม่ต้องกลัวว่าจะมาหลอกหลอนคนเปิดและชาวบ้าน เชื่อว่าวิญญาณจะกลับไปเล่นงานคนที่จับวิญญาณมากักขังใส่หม้อดิน จึงไม่ต้องกลัว เพราะเป็นการช่วยเหลือ
ภาพ หนังสือพิมพ์ข่าวระยอง
©2018 CK News. All rights reserved.