วันที่ 8 เมษายน 2566 ภก.ชาญชัย ธรรมร่มดี ที่ปรึกษามูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร. กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนพร้อมคณะนักวิจัย ของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เข้าพบ พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือการวิจัยทางคลินิกเพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์สมุนไพรและเป็นการส่งเสริมเกษตรกรไทยที่ปลูกสมุนไพรฟ้าทะลายโจร โดยได้เริ่มศึกษาประสิทธิภาพของสเปรย์พ่นคอฟ้าทะลายโจรอภัยภูเบศร เป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ใช้ในผู้ป่วยโรคคออักเสบเฉียบพลัน(Acute pharyngitis) ที่เข้ารับการรักษาใน รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โดยทางผู้วิจัยได้ทบทวนข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ พบว่า การใช้สเปรย์ฟ้าทะลายโจรพ่นคอที่มีฤทธิ์ลดอาการอักเสบน่าจะมีส่วนช่วยในการลดอาการเจ็บคอในผู้ป่วยได้

ด้าน พญ.ริสา โอโกโนกิ แพทย์เฉพาะทาง หู คอ จมูก รพ.เชียงรายฯ หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคทางเดินหายใจจำนวนมากที่เข้ารับการรักษาที่รพ.เชียงรายฯ โดยเมื่อเริ่มโครงการวิจัยสเปรย์ฟ้าทะลายโจร ก็มีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการวิจัยสเปรย์ฟ้าทะลายโจรพ่นรักษาอาการเจ็บคอหลายท่าน เนื่องจาก จ.เชียงรายเป็นพื้นที่ ที่ต้องเผชิญ PM 2.5 อย่างหนัก และคาดว่าจะมีอาสาสมัครเข้าร่วมศึกษาได้มากขึ้นในช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งหากผู้ป่วยท่านใดมีอาการเจ็บคอไม่เกิน 72 ชั่วโมง สามารถเข้าร่วมโครงการได้ที่ แผนก หู คอ จมูก รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ โทร.0947423555” การเข้าร่วมโครงการวิจัยดังกล่าวนอกเหนือจากการจะช่วยตัวผู้ป่วยเองให้บรรเทาอาการเจ็บคอที่เป็นอยู่แล้ว ยังจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้มียาจากสมุนไพรที่ปลูกได้ในประเทศไทย ลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ

สำหรับสรรพคุณของฟ้าทะลายโจรนั้น ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นสุดยอดของสมุนไพรในการต้านไวรัส ต้านการอักเสบและเสริมภูมิคุ้มกัน โดยในช่วงการระบาดของโควิด 19 ฟ้าทะลายเป็นสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับให้ใช้ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่ระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประชาชนสามารถรับยาจากสถานพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากรูปแบบการรับประทาน ยังมีชุดประสบการณ์การใช้ของผู้ป่วยในการบรรเทาอาการเจ็บคอ แบบเฉพาะที่ ด้วยการอมใบฟ้าทะลายโจรให้น้ำลายค่อยชะล้างเอาตัวยาไปสัมผัสบริเวณลำคอที่มีการอักเสบ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรช่วยบรรเทาอาการอักเสบ  

“มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงได้พัฒนาสเปรย์จากสารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่ควบคุมคุณภาพสารสำคัญ ขึ้น โดยในระยะแรกยังไม่มีการศึกษาวิจัยในคนเปรียบเทียบกับการรักษามาตรฐาน จึงจดแจ้งเป็นเครื่องสำอาง เพื่อให้ผู้บริโภคมีผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพใช้ พบว่ายอดขายเกินความคาดหมาย อาจจะด้วยสาเหตุของโควิด 19 ที่ยังระบาดอยู่ และ PM 2.5 ที่มีเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 เดือน ทำให้มีสินค้าขาดเป็นช่วง ทำให้มูลนิธิต้องเร่งอัตราการผลิต จนเพียงพอกับความต้องการ ในขณะนี้ก็เร่งศึกษาวิจัยประสิทธิผลของสเปรย์ในผู้ป่วยจริง เพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการขึ้นทะเบียน” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว