วันที่ 8 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จัดกิจกรรมรณรงค์ และสื่อให้เห็นถึงโทษของการใช้กัญชา ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่ง เพิกถอน คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีพรรคภูมิใจไทยได้ยื่นคำร้องขอให้ คุ้มครองชั่วคราวระหว่างพิจารณาคดีไม่ให้นายชูวิทย์ กล่าวถึง นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย

นายชูวิทย์ เดินทางมาจากศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ด้วยรถจักรยานยนต์เพื่อมาที่บริเวณจุดปราศรัย โดยมีการนำป้าย ที่ ระบุข้อความต่อต้านการใช้กัญชา และโทษของกัญชามาติดไว้ โดยมีประชาชน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มายืนรอให้ความสนใจ

นายชูวิทย์ กล่าวว่า หลังจากศาล เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ก็จะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้าน นโยบายกัญชาเสรีต่อทันที เพราะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย เปรียบเหมือนผู้นำยาเสพติด เข้าสู่สังคมไทย รวมถึงก่อนหน้านี้ ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูลในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แต่กลับ ออกกฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมาย และไม่มีกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้

ทำให้เฉพาะในกรุงเทพมหานครมีร้านขายกัญชามากกว่า 3,000 ร้าน และบางร้านเปิดขาย 24 ชั่วโมงซึ่งต่างจากการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีเวลากำกับไว้ชัดเจน จึงพบว่ามีเด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชามากขึ้นต่อเนื่อง

ระหว่างการปราศรัย มีหญิงรายหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากคนในครอบครัวที่เสพติดกัญชา ได้นำป้ายข้อความมามอบให้นายชูวิทย์ ซึ่งนายชูวิทย์ ระบุว่า หญิงคนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกัญชาเสรี ยังมีอีกจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบและยังมีผู้ที่มาร้องเรียน กับตน ทั้งช่องทางออนไลน์ และ ตามจุดปราศรัย

นายชูวิทย์ยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชา ไม่มีบุคคลใดเป็นเบื้องหลัง เป็นการทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และต่อสู้ในเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

แม้ระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีบุคคลหยิบยกเอาประเด็นอื่นของตนมาพูดถึงเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น เช่น กรณีสวนชูวิทย์ และการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ ทุกเรื่องตนก็สามารถพิสูจน์ตัวเองมาได้ทั้งหมด

ทั้งนี้การที่ออกมาเคลื่อนไหวในช่วงใกล้เลือกตั้ง ก็เห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่จะให้ ประชาชนที่จะทำให้ประชาชน ตัดสินใจได้ว่า ควรเลือกพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้แทนราษฎรอีกหรือไม่