"พรรคภูมิใจไทย" เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งหักศอกสุดท้าย ชูกฏหมายข้าวคืนกำไรชาวนา - กัญชาเสรี


22 มี.ค. 2562, 09:49

"พรรคภูมิใจไทย" เปิดเวทีปราศรัยใหญ่โค้งหักศอกสุดท้าย ชูกฏหมายข้าวคืนกำไรชาวนา - กัญชาเสรี




ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามหญ้าวิทยาลัยเทคนิคอำเภอตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัครในเขตเลือกตั้งด้านฝั่งอุบลราชธานีตอนเหนือ 4 เขตเลือกตั้ง คือ เขต 1 , 2 , 5  และ 6 เปิดเวทีปราศรัยส่งท้ายโค้งสุดท้าย กับประชาชนใน  4 เขตเลือกตั้งเข้าร่วมฟังเต็มสนามฟุตบอล ก่อนถึงวันลงคะแนนในวันที่ 24 มี.ค.นี้



นายกุญชร สุธรรมวิจิตร ผู้สมัครเขตเลือกตั้งที่ 6 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พวกตนเป็นกลุ่มที่มีอุดมการณ์ทำงานกับคนรากหญ้ามาโดยตลอด และให้การสนับสนุนกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร และจะไปผลักดันให้เกิดกฏหมายข้าว กฏหมายมันสำปะหลัง ซึ่งนายทุนเจ้าของลานมัน เจ้าของโรงสีข้าว จะต้องคืนกำไรจากการขายผลิตร้อยละ 15 เข้าสู่กองทุน แล้วกองทุนนำไปให้กับเกษตรกรที่เป็นเจ้าของผลผลิต เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยไม่จำเป็นต้องมีการประกันราคา หรือรับจำนำข้าว ให้เกิดเป็นวงจรทุจริตเหมือนที่ผ่านมา


ซึ่งกฏหมายข้าวมีประเทศที่เจริญแล้วนำไปใช้ คือ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ชาวนาญี่ปุ่นยิ่งปลูกข้าวก็ยิ่งรวย ไม่เหมือนชาวนาไทยยิ่งปลูกข้าวก็ยิ่งยากจน เพราะไม่มีกฏหมายข้าวออกมาใช้ แม้จะไม่ใช่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย แต่ถ้าพวกตนได้เป็น ส.ส.จะนำกฏหมายข้าวไปผลักดันกับพรรคให้มีการออกมาบังคับใช้ให้ได้ เพื่อโอกาสของชาวนาจะได้มีรายได้มากขึ้นกว่าอดีต

 

สำหรับผู้ที่เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน หรือกองทุนเงินล้าน หากเมื่อมีอายุเกิน 60 ปี ก็ให้ปลดหนี้ไปเลย เพราะปัจจุบันตามชนบทคนสูงอายุก็ยังใช้หนี้กองทุนเงินล้านไม่หมดจำนวนมาก ทำให้ไม่มีคุณภาพในการดำเนินชีวิต ซึ่งพวกคนก็จะผลักดันให้เกิดนโยบายนี้กับพรรคภูมิใจไทยเช่นกัน พร้อมยกเลิกเอกสารครอบครองที่ดินทั้ง ทบ. 5  สปก. สค. 1  ให้เป็นโฉนดอย่างเดียว เพื่อให้ประชาชนนำเอกสารไปทำประโยชน์ได้เต็มที่

 

นอกจากนี้ พรรคภูมิใจไทย ยังสนับสนุนให้มีการปลูกกัญชาเสรี เพราะเป็นพืชสมุนไพรอีกชนิดที่จะทำรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกถึงกิโลกรัมละกว่า 7 หมื่นบาท เรียกเสียงชื่นชอบจากชาวบ้านที่เป็นเกษตรกรที่เข้ามาร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างมากด้วย











©2018 CK News. All rights reserved.