ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 11 มีนาคม 2566 ร.ต.ท.อัครพล บรรจง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางบัวทองได้รับแจ้งจากน.ส.อรพิณ ตรีสวัสดิ์ไพบูลย์ อายุ 77 ปี เจ้าของร้านชำชื่อเจ๊หลี เลขที่ 2/8 - 9 ม.13 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็น เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ปลูกติดกันภายในหมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ซอย 2/2 ว่าถูกคนร้ายปีนหลังคามาจากข้างบ้านแล้วทุบหลังคาบ้านเป็นช่องโหว่หย่อนตัวลงมาจากฝ้าแล้วรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอน 3 ห้องคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักกว่า 10 บาท พระล็อคเก็ตหลวงปู่โต๊ะรุ่นแรกจำนวน 1องค์ พระเหรียญหลวงปู่ทวด จำนวน 1 องค์ สร้อยคอทองคำรับปริญญามรดกตกทอดน้ำหนัก 3 บาท รวมทรัพย์สินสูญหายทั้งหมด มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 20.58 น.แจ้งความไว้ที่สภ.บางบัวทอง

อาม่า กล่าวว่า เหตุเกิดวันที่ 10 มี.ค. 66 ตอนประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ตนขายของอยู่หน้าร้าน ส่วนหลานนั่งทำงานอยู่ด้านในบ้านชั้นล่าง ด้านหน้าบ้านริมถนนจะมีร้านขายข้าวมันไก่ ช่วงนั้นคนกำลังเยอะ ประมาณเที่ยงคืนตนปิดร้านจะอาบน้ำ และเข้านอน ให้หลานพาขึ้นบ้าน เปิดห้องเข้าไปเจอคนรื้อของกระจัดกระจาย ตนเดินไปดูใจสั่น มือสั่น 3 ห้องโดนรื้อทั้งหมด มีสร้อยคอทองโบราณ 2 บาท 3 บาท ของมรดกเก่าแก่ เงินสดเกือบ 100,000 บาท พระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวด หลวงปู่โต๊ะราคาหลักแสนหายไป คนร้ายมาทางหลังคา เข้าไปตรงซอย 1 เอาบันไดพาดและปืนขึ้นไปบนหลังคา เดินเลาะมาแล้วลงมาจากฝ้าเข้ามาที่บ้านตนบริเวณชั้น 2 เดินหาของทั่วบ้าน คนร้ายลงมือก่อเหตุคนเดียว อายุประมาณ 40 กว่าๆ ร้านตัดผมข้างๆเอากล้องวงจรปิดให้ดู เห็นคนร้ายเดินมาเรียกแท็กซี่หนีออกไป ตนรู้สึกกลัวยังหาช่างมาซ่อมหลังคาไม่ได้ นอนไม่หลับยันเช้า มีตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่บ้าน ตนอยากให้จับคนร้ายได้เร็วๆ เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย

ป้าเอ นามสมุติ แม่ค้าขายข้าวมันไก่  กล่าวว่า ตนขายข้าวมันไก่อยู่หน้าร้าน และปิดร้านประมาณ 23.30 น. หลังจากเก็บร้าน และช่วยกันปิดประตู ตนกำลังจะเข้านอน อาม่าโทรมาบอกว่าโจรขึ้นบ้าน ตนเลยรีบมาหาและขอดูกล้องวงจรปิดร้านตัดผมข้างบ้าน ร้านตัดผมเล่าให้ฟังว่าตอนเขาปิดร้านขึ้นบ้านเห็นคนส่องไฟฉายข้างบน แต่ไม่ได้สงสัยเพราะช่วงเวลานั้นคนกำลังเยอะ ส่วนบ้านข้างหลังได้ยินคนทุบหลังคา คิดว่าคงทุบและโรยตัวลงมาจากฝ้าเหยียบบนตู้เสื้อผ้าและลงมารื้อข้าวของในห้องทั้ง 3 ห้อง ก่อนจะออกมาตรงระเบียงและกระโดดลงมาเรียกแท็กซี่หนีไป คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ตนรู้สึกกลัวมาก คนอยู่เต็มหน้าบ้านคนร้ายยังกล้าก่อเหตุ ที่บ้านไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ดูแต่ในข่าว อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดี อย่าคิดว่าเป็นแค่คดีลักทรัพย์ ถ้าคนร้ายกลับมาก่อเหตุและแทงคนตายจะทำยังไง

สจ.ปิย์วรา จริยเมโธ หรือ สจ.ปุ้ย กล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเพราะเวลานั้นเป็นช่วงหัวค่ำ ประมาณเกือบ 2 ทุ่ม ดูแล้วคนร้ายดูลาดเลามาก่อนและรู้ว่าบ้านนี้ขายของ รู้พฤติกรรมของคนในบ้านนี้ถึงได้ลงมือก่อเหตุช่วงหัวค่ำ ฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านช่วยกันระวัง เวลาได้ยินเสียงหรือเห็นอะไรให้บอกกัน อย่าสงสัยและเงียบเฉย ส่วนของหมู่บ้านจะมีกรรมการหมู่บ้าน รวมทั้งตนและนายกด้วย ก่อนหน้านี้จะมีทีมคอยตรวจสอบลงพื้นที่เนื่องจากพวกยาเสพติดเยอะ ตอนนี้ก็มีเยอะอีก คาดว่าจะเป็นขโมยหรือติดพนันออนไลน์ เราจะมีมาตรการเพิ่ม ทีมสธ. นักมวยในพื้นที่ กรรมการหมู่บ้านมีรถคอยวิ่งลาดตระเวณ เมื่อก่อนจะวิ่งดูประมาณช่วงดึกๆ ตี 2-3 แต่เคสนี้คนร้ายก่อเหตุช่วงหัวค่ำ เดี๋ยวรอท่านนายกกลับมาต้องเร่งประชุมหารือและเพิ่มมาตรการความปลอดภัยมากขึ้น จะมีเสียงตามสายคอยเตือนให้ชาวบ้านระวัง ก่อนหน้านี้เคยมีเคสของลูกบ้านอีกหลังคนร้ายเข้ามาก่อเหตุเวลากลางวัน ต้องเพิ่มมาตรการให้มากขึ้นกว่าเดิม