วันนี้(10 มี.ค.2566) ภายใต้นโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.  พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.  พล.ต.ท.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.4  พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวาลกุล  พ.ต.อ.มนูวัฒน์ กอสนานรอง ผบก.ตม.4 สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ จึงประสานงานในการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เวลาประมาณ 06.00 น.เป็นต้นมา ขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจบูรณาการบริเวณจุดตรวจฐานกลาง กองกำลังสุรนารี ถ.214 ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีรถยนต์โดยสารประจำทางขับมุ่งหน้ามายังจุดตรวจฯ ซึ่งคาดว่าจะส่งผู้โดยสารที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ชายแดนไทย-กัมพูชา 

เจ้าหน้าที่ชุดตรวจร่วม จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดรถและขอตรวจสอบผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถ จากการตรวจสอบบนรถพบนางรอม นาม อายุ 37 ปี (ทราบภายหลัง) พร้อมพวกรวม 9 คน อยู่บนรถโดยสาร จึงได้แสดงตนเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมขอตรวจเอกสารประจำตัวจากการตรวจสอบบุคคลต่างด้าวดังกล่าว ซึ่งสามารถพูดภาษาไทยได้ รับว่าพวกตนทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชาบ้านอยู่จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา 

นางรอมนาม ให้การรับสารภาพอีกว่าพวกตนไม่มีเอกสารการเดินทางได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางช่องทางธรรมชาติด้านจังหวัดสระแก้ว เพื่อไปทำงานจังหวัดปราจีนบุรีแต่ตอนนี้ไม่มีงานทำแล้วจึงได้โดยสารรถประจำทางเพื่อกลับภูมิลำเนา  เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองพ.ศ.2522 แล้วควบคุมมายังที่ทำการ ตม.จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินการตามกฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะควบคุมตัวส่งกลับไปยังประเทศกัมพูชาทางจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ กล่าวว่า กรณีที่กรมแรงงานได้เปิดให้แรงงานต่างด้าวยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงานให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 13 ก.พ.2566 ที่ผ่านมาและเปิดโอกาสให้ยื่นเอกสารต่างๆและตีวีซ่าทำงานที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้เสร็จทุกขั้นตอนภายใน 15 พ.ค.2566 นั้น ปรากฎว่ายังมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากรวมถึงแรงงานชาวกัมพูชาที่ไม่ไปยื่นขอต่อใบอนุญาตทำงานตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ทำให้แรงงานเหล่านี้ไม่สามารถทำงานต่อไปได้บางรายก็ไม่มีงานทำเพราะไม่มีใครกล้ารับเข้าทำงาน จึงเดินทางกลับประเทศกัมพูชาโดยการนั่งรถโดยสารประจำทางจนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบดังกล่าว