เมื่อเวลา 17.30  น.วันที่ 20มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬา อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน  และอีกหลายคน  ลงพื้นที่เพื่อหาเสียงช่วย นายณัฐกานต์ ไชยรบ ผู้สมัคร สส.สกลนคร เขต 4. หมายเลข 14 ลูกชาย. นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร สส.ทั้ง 6. เขตมาขึ้นเวทีด้วย ประกอบด้วย เขต 1.นายสุมนิศร์ ทีฆธนานนท์ เบอร์ 8 เขต 2. นายชาญชัย งอยผาลาเบอร์ 4   เขต 3. นายสมพงษ์ อาจไพรินทร์ เบอร์ 9 .เขต 4. นายณัฐกานต์ ไชยรบ เบอร์ 14  เขต 5. นายสมศักดิ์ สุขประเสริฐ  เบอร์ 14 เขต 6 ดร.อภิรักษ์ เคนไชยวงศ์  เบอร์ 1

 

โดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวท่ามกลางชาวบ้านที่มาฟังกว่า 2 หมื่นคน ว่า ที่ตนไปรับฟังมาทั่วประเทศ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ต้องการให้บ้านเมืองแตกแยก ต้องการให้มีความสงบสุข พรรคพลังประชารัฐ จึงมีนโยบายรวมกันเป็นสีเดียวคือสีประเทศไทย ไม่มีแดงมีเหลือง เพราะถ้าได้พรรคเก่าๆความแตกแยกก็จะเกิดขึ้นตามา การมาที่อ.สว่างแดนดิน เพื่อปิดฉากการปราศรัย นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะเท่ากับความรุ่งโรจน์สว่างไสวของพรรค 

ดังนั้นวันที่ 24 มีนาคม 2562 ทุกคนจงร่วมใจไปกาพรรคพลังประชารัฐเพื่อสานต่อนโยบายของรัฐบาล โดยต้องมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เท่านั้น  ในขณะที่ มีนายก อบจ. 3 จว.ก็มาขึ้นเวทีด้วย คือ นายก อบจ.สกลนคร  มุกดาหาร และ นครพนม

 

นายณัฐกานต์ ไชยรบ ผู้สมัคร สส.สกลนคร เขต 4  กล่าวว่า ที่ตนมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐก็คือ นโยบายการก้าวข้ามความขัดแย้งของคนในชาติ  นำความสงบสุขมาสู่ประเทศ   และนำนโยบายที่ทำให้พี่น้อง ปชช.มีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินค่าป่วยการ  อสม. เงินช่วยเหลือชาวนา  โครงการมารดาประชารัฐ มีเงินช่วยเหลือตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6. ปี รวม 181,000 บาทและอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน  ตนเชื่อมั่นว่าจากผลงานดังกล่าว จะทำให้ ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เข้ามาบริหารประเทศ

 

ด้านนายสุมนิศร์ ทีฆธนานนท์ ผู้สมัครสส.เขต 1. หมายเลข 8 บุตรชาย นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร   กล่าวว่า. ตนมีความตั้งใจอย่างมาก ที่จะเข้าไปทำงานในหน้าที่ผู้แทนราษฎร เพื่อตอบแทนบุญคุณบ้านเกิด ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ที่ผ่านมาจนได้ผ่านการทำงานการเมืองมาแล้วในระดับหนึ่ง แต่บ้านเมืองเรายังต้องการการพัฒนาในทุกๆด้าน คุณภาพชีวิตของพี่น้อง ปชช.ต้องมาก่อน และเชื่อมั่นในผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาล ซึ่งจะไม่สำเร็จลงได้หากพี่น้องไม่ช่วยกัน ดังนั้น วันที่ 24. มีนาคม ในเขตเลือกตั้งที่ 1 เข้าคูหากาเบอร์ 8 พรรคพลังประชารัฐ