เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ตรัง (หลังเก่า)  ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ แกนนำของพรรค  ได้ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ตรังทั้ง 3 เขต หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ท่ามกลางประชาชนจำนวนมาก  ไม่น้อยหน้าไปกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่ ที่เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ไปเมื่อคืนวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา

สำหรับเวทีของพรรคพลังประชารัฐในค่ำคืนนี้ จะเน้นความครื้นเครง และเป็นกันเอง ด้วยการเปิดเพลงประจำพรรค  ทำให้บรรดาแกนนำ และผู้สมัคร รวมทั้งประชาชนชาวตรัง โยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน  ซึ่งการปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นไปด้วยความเข้มข้น เรียกเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ตลอดการปราศรัยของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค

โดย ดร.สุวิทย์ กล่าวปราศรัยว่า สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ผ่านมา ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง และนำพาบ้านเมืองสู่ความสงบ  เนื่องจากการเมืองของไทยมีแต่ความวุ่นวายตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา  ดังนั้นเมื่อประเทศไทยไม่มีทางออก พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา

ดร.สุวิทย์ กล่าวปราศรัยอีกว่า ปัญหาความเลื่อมล้ำและความยากจนของไทย จะต้องถูกขจัดออกไปภายใน 4 ปีข้างหน้า  โดยเฉพาะจังหวัดตรัง พรรคพลังประชารัฐ จะมุ่งพัฒนาให้เป็นเมืองหลวงของฝั่งอันดามันทั้ง 5 จังหวัดให้ได้  เนื่องจากที่ผ่านมามีเสียงตอบรับอย่างดีทั้ง 3 เขต และเชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในภาคใต้สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้  เพราะจากการลงพื้นที่มีเสียงตอบรับอย่างกว้างขวาง ทั้งด้วยนโยบายของพรรค และความเชื่อมั่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาการปราศรัยส่วนใหญ่ของ ดร.สุวิทย์ จะมุ่งเน้นนโยบายประชานิยม  ด้วยการเอาเงินมาช่วยเหลือประชาชนตามโครงการต่างๆ หากเลือกพรรคพลังประชารัฐ เป็นรัฐบาล