วันที่ 21 มกราคม 2566 พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว ประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยร่วมจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม โดยสั่งการของ พล.ต.ท.​ภาคภูมิภิภัทฒ์​ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.​พันธนะ นุชนารถ​ รอง.ผบช.สตม.พล.ต.ต​.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.ไกลเขต บุรีรักษ์ 

รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.สุทธิพงษ์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จว.ประจวบฯ พ.ต.ท ณัฐพงษ์ จันทร์แจ่มหล้า รอง ผกก.ตม.จว.น่าน ปรก.ตม.จว.ประจวบฯ สั่งการให้ชุดสืบสวนฯ ตม.จว.ประจวบฯ นำโดย พ.ต.ต.ปวริศ ปานะจินาพร สว.ตม.ประจวบฯบูรณาการร่วมกับ ชุดฉก.จงอางศึก แลเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ สภ.เมืองประจวบฯ

โดยมีรายละเอียดดังนี้ วันนี้ 20 ม.ค.66 เวลาประมาณ 17.20 น. ได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุม 1.นาย ประจวบ โพธิ์ทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202/1 ม.7 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบฯ

โดยกล่าวหาว่า"ช่วยเหลือซ้อนเร้นฯและมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมายจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 21 คน โดยกล่าวหาว่า”เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต(หลบหนีเข้าเมือง)

พร้อมด้วยของกลาง1.ยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)จำนวน 7เม็ด เหตุเกิดบริเวณ ช่องธรรมชาติ ช่องหัวเขา บ.หนองไม้แก่น ม.7 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบฯ

พฤติการ์ณ จากการข่าวทราบว่าจะมีการลักลอบนำแรงงานหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาทางช่องทางธรรมชาติ จนท.ชุดจับกุมได้วางแผนเพื่อทำการจับกุมกระทั่งเวลาประมาณ17.20น.ชุดจับกุมตรวจพบกลุ่มบุคคลหลบอยู่แนวป่าริมชายแดนชุดจับกุมจึงเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นชาวเมียนมาจำนวน 21 คน และมีคนไทย 1 คนทราบชื่อภายหลังคือ นาย ประจวบ โพธิ์ทอง ยอมรับว่าเป็นคนมารับชาวเมียนมาทั้งหมดและจากการตรวจค้นตัวนายประจวบ โพธิ์ทอง ได้พบยาบ้าอยู่ในกระเป๋ากางเกง จำนวน 7 เม็ด โดยให้การรับยาบ้าดังกล่าวตนเอาไว้เพื่อเสพส่วนผู้หลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดให้การว่าได้เดินทางมาจาก รัฐ ชินประเทศเมียนมามาพักที่บ.มูด่อง เมื่อวันที่ 19/01/66 และได้นอนที่ บ.มูด่อง(ฝั่งพม่า)1 คืนและเริ่มเดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เข้ามาถึงฝั่งไทยเมื่อเวลา ประมาณ17.00 น.โดยมีคนสัญชาติเมียนมาเดินนำทางมา2 คนเพื่อมาส่งต่อให้ นาย ประจวบฯ (หลบหนีไปแล้ว) ปลายทางต้องการจะไปหางานทำที่ประเทศ มาเลเซียโดยจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 30000-40000บาท หลังจากนี้ชุดสืบสวนจะได้ทำการซักถาม/จัดทำประวัติ เพื่อสืบสวนขยายผลถึงขบวนการและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องและนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.เมืองประจวบฯ เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป