วันที่ 21 มกราคม 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของมัลแวร์อันตราย ที่มาในรูปแบบของแอพพลิเคชัน ซึ่งกระทรวงและสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้ตรวจสอบมาโดยตลอด พบปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะผู้ใช้งานโทรศัพท์ที่ติดตั้งแอพพลิเคชันที่ถูกระบุว่าสามารถขโมยข้อมูล หรือควบคุมเครื่องโทรศัพท์ได้
โดยในปี 2565 มีการเผยแพร่รายชื่อแอพพลิเคชันอันตรายเหล่านี้ ซึ่งมีมากกว่า 200 รายการ ทั้งในระบบไอโอเอส (iOS) และแอนดรอยด์ (Android) ตามที่ปรากฎใน เพจเฟซบุ๊ก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเพจของ สกมช. (NCSA THAILAND) จึงขอให้ผู้ใช้งานตรวจสอบ หากพบแอพพลิเคชันดังกล่าวให้ถอนการติดตั้งโดยทันที และควรอัปเดตระบบของเครื่องโทรศัพท์ของตนให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
ทั้งนี้ กระทรวงขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังในการดาวน์โหลดแอพลงบนโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจเจอมัลแวร์อันตรายได้ หากมีการโหลดเข้าไปในเครื่องก็จะมีโอกาสที่จะถูกดูดข้อมูลส่วนบุคคล หรือถูกรีโมทเข้ามาควบคุมมือถือของท่าน
ถ้ามีเกี่ยวกับการเงินก็อาจจะถูกโอนเงินออกไป ที่เรียกว่าใช้แอพดูดเงิน และถ้าพบแอพเหล่านี้อยู่ในมือถือของท่านให้รีบลบออก ขณะนี้ กระทรวงฯ ได้ประสานกับทางเพลย์สโตร์ (Play Store) หรือแอพสโตร์ (App Store) ทั้งหมดแล้วไม่ให้มีแอพเหล่านี้ในระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลงกลแล้วโหลดเข้าไป
นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการสร้างเอสเอ็มเอส (SMS) โดยใช้ชื่อเดียวกับผู้ส่ง (Sender Name) ที่เป็นธนาคาร แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้รับเอสเอ็มเอสเข้าใจผิดและหลงเชื่อว่ามาจากหน่วยงานจริง โดยทั่วไปหน่วยงานส่วนใหญ่ได้ออกประกาศว่าจะไม่มีการส่งลิงก์ผ่านเอสเอ็มเอส (SMS) ให้กับผู้รับบริการ
ดังนั้น จึงขอเตือนให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อคลิกลิงก์ที่มากับเอสเอ็มเอส (SMS) หรือเพิ่มเพื่อนจากไลน์ไอดี โดยให้สังเกตรูปแบบ เนื้อหาที่อาจเป็นสิ่งที่ดีเกินจริงหรือทำให้หวาดกลัว เช่น “คุณได้รับอนุมัติวงเงินกู้ 50,000 บาท คลิกลิงก์…” หรือ “โปรดยืนยันรหัสผ่าน มิฉะนั้นบัญชีของท่านจะถูกระงับการใช้งาน ติดต่อไลน์ไอดี…” โดยอาจจะตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่ถูกระบุว่าส่ง SMS มาอีกครั้ง
ทั้งนี้ สกมช. ได้รวบรวมรายชื่อบริษัทที่ส่งเอสเอ็มเอส (SMS) ปลอมเหล่านี้ เพื่อหยุดการทําธุรกรรมต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการประสานงานกับ กสทช. เพื่อขอให้ผู้ให้บริการมือถือทุกค่าย และธุรกิจที่ทำเอสเอ็มเอส (SMS) แล้วปล่อยให้มีการปลอมชื่อออกมา
หากทําสําเร็จก็จะไม่มีเอสเอ็มเอส (SMS) ปลอมอีก นอกจากนี้ เรื่องการแอดไลน์ก็เช่นเดียวกัน บางทีส่งไลน์มาก็เป็นไลน์ปลอมให้เข้าไปแอด เห็นชื่อเห็นรูปอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก หรือเป็นบริษัท หน่วยงานที่เรารู้จัก เพราะฉะนั้นขอให้ระวังเช่นเดียวกัน
“อย่าไปแอดไลน์ อย่าไปคุยกับคนเหล่านี้ เพราะว่าถ้าเขาพูดคุยเข้ามา ส่งข้อความมาที่เป็นของที่ดีเกินจริงได้ประโยชน์มากเกินควร เช่น อาจจะให้กู้เงินห้าหมื่นบาท ให้ขายสินค้าในราคาพิเศษถูกมากๆ หรือหลอกว่าจะมีรายได้พิเศษให้เรา ถ้าเราไปทํางานกับเขา ไปลงทุนกับเขา พวกนี้มันดีเกินจริง คิดไว้เลยว่าเป็นมิจฉาชีพ ผ่านช่องทางไลน์ปลอม หรือ SMS ปลอม ก็อย่าไปยุ่ง อย่าไปกดลิงก์ อย่าไปให้ข้อมูลเด็ดขาด” นายชัยวุฒิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากจะติดต่อกับหน่วยงานใด ๆ ก็ตาม ผ่านช่องทางออนไลน์ ควรติดต่อผ่านแอพที่ได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นแอพจริง หรือไปที่เว็บไซต์ของเขา ซึ่งเว็บไซต์ก็ต้องเป็นเว็บจริง วิธีการสังเกต คือเป็นเว็บที่ลงท้ายด้วยดอททีเอช ทีเอชก็คือไทยแลนด์ เป็นเว็บไซต์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย ซึ่งอันนี้ได้ตรวจสอบยืนยันตัวตนอย่างถูกต้องและเชื่อถือได้
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนดูที่แอพพลิเคชันที่ท่านคุ้นเคย และใช้งานอยู่เป็นประจำ มีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและไม่ถูกหลอกให้สูญเงินด้วย
©2018 CK News. All rights reserved.