นายกสมาคมนักวิจัยฯ โต้แพทย์โพสต์เฟซบุ๊ก กาแฟใช้น้ำต้มใบกัญชาวางขายในห้างสรรพสินค้าด้วยความอคติมากกว่าการให้ความรู้แก่สังคม จวกส.ส.ไม่ผ่าน พ.ร.บ.กัญชามุ่งแต่หวังผลทางการเมือง
วันที่ 20 มกราคม 2565 จากกรณี นายแพทย์ท่านหนึ่ง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยอ้างอิงรูปตู้อัตโนมัติที่ขายกาแฟผสมกัญชาในห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง โดยระบุว่า “ขายกันแบบนี้ เราจะกันไม่ให้วัยรุ่นหรือเด็กกดซื้อได้อย่างไร ถึงมีแปะไว้ว่าไม่ขายให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี จะตรวจสอบอย่างไร นอกจากนี้ตู้ยังแปะว่า อย. อนุญาตด้วย แล้วผมบอกเลยครับว่า ทำแบบนี้อาจไม่ผิดกฎหมายนะครับ เพราะหากผู้ขายอ้างว่าไม่ได้ใช้ช่อดอกกัญชาผสม ก็ไม่ผิดแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีการควบคุมแค่ช่อดอกกัญชา และห้ามขายเฉพาะช่อดอกกัญชาในตู้อัตโนมัติ ในต่างประเทศที่ให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ตู้อัตโนมัติขายกัญชาหรืออาหารเครื่องดื่มที่มี THC แบบนี้ เค้าอนุญาตให้มีขายเฉพาะร้านที่ผู้ใหญ่เข้าถึงเท่านั้น สุดท้ายการขายแบบนี้มันเป็นเพื่อการแพทย์แบบที่โปรโมทกันตรงไหนครับ ไม่น่ามีแพทย์แผนปัจจุบันหรือแผนไทยคนใดเอามาผสมกาแฟเพื่อการรักษาแน่ ๆ”
เกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าว ดร.พิพัฒน์ นนทนาภรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางสมาคมมีความห่วงใยในการใช้อคติบิดเบี้ยวความเป็นจริงของกัญชาสร้างความสับสนในสังคมอาจนำการทำผิดกฏหมายมาโจมตี แต่อย่างไรก็ตามในกรณีนี้โดยเฉพาะผู้เคมีมาแล้วน่าจะรู้ดีว่าสารกลุ่มแคนาบินอยด์เช่น THC CBD ละลายน้ำได้น้อยมากอาจเรียกว่าไม่ละลายเลยก็ได้ประกอบกับใบกัญขามีสารเหล่านี้น้อย ดังนั้นน้ำต้มใบกัญชาจึงการต้มหรือชงใบกัญชาด้วยน้ำจึงแทบจะตรวจไม่พบสารกลุ่มนี้เลย ซึ่งถ้าละลายน้ำได้ง่าย ๆ เราก็คงใช้การต้มสกัดเอาตัวยาออกมาได้เอง โดยไม่ต้องพึ่ง ภาคอุตสาหกรรม ในการไปหาเครื่องมือแพงแพงมาทำการสกัดสารกลุ่มนี้ จะเห็นได้ว่าการที่น้ำใบกัญชามาชงน้ำไม่ได้ทำให้เมาจากการที่สารเมาไม่ละลายน้ำ ในส่วนของการทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่าย ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดว่า ในเครื่องดื่มต้องมีสาร THC น้อยกว่า 0.015 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร และมีที่มาของการกำหนดมาตรฐานเหล่านี้ มาตรฐานของอย.ไทย เป็นที่ยอมรับทั่วโลก หากมีผลิตภัณฑ์ใดผิดกฎหมาย ก็ร้องเรียนกันไป
ส่วนการนำมาจำหน่ายก็ขึ้นกับว่าถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ถ้าผิดกฏหมายก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายที่มีอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม สังคมต้องการกฏหมายที่ควบคุมกัญชาทั้งระบบตั้งแต่กระบวนการปลูก แปรรูป การขาย การคุ้มครองเด็กและเยาวชน การคุ้มครองผู้บริโภค บทลงโทษต่อผู้ไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด การควบคุมกัญชาจำเป็นต้องควบคุมทั้งระบบและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ
ดร.พิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า สมาคมนักวิจัยฯ มีการเก็บข้อมูลการวิจัยในเชิงพฤกษศาสตร์พื้นบ้านพบว่ามีการใช้กัญชาใส่ในอาหารของคนไทยมีมาอย่างช้านาน และใช้อย่างชาญฉลาด ในสังคมไทยมีการใช้กัญชาปรุงอาหาร เช่น การใช้ใบใส่ในน้ำซุปเพื่อปรุงรส ไม่ได้ทำให้เมา เพราะสารเมาไม่ละลายน้ำหรือละลายก็น้อยมาก สามารถกินใบสดเป็นผัก หรือใช้แทนใบกระเพราได้ ทางสมาคมฯ ยินดีเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้เรื่องนี้แก่ประชาชน เชื่อมั่นว่าประชาชนเรียนรู้ได้ เนื่องจากมีข้อมูลทางภูมิปัญญาและมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์สนับสนุน แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสมด้วยความรู้ความเข้าใจไม่ตกเป็นเหยื่อของการกล่าวอ้างสรรพคุณที่เกินจริง
ดร.พิพัฒน์ ยังได้แสดงความห่วงใยปัญหาสภาล่มซ้ำซาก โดยขอร้องให้ สส เข้าประชุมสภาพิจารณาร่าง พรบ ให้แล้วเสร็จ มีอะไรก็ถกกันเพื่อการดูแลสังคมและการใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างสมดุลครอบคลุมทุกมิติ ทำให้เยาวชนได้รับการดูโดยมีบทลงโทษไม่น้อยกว่าภายใต้พรบ. เสพติด อย่าใจดำอำมหิตนัก เพียงเพราะหวังผลทางเมือง
©2018 CK News. All rights reserved.