วันที่ 26 ธันวาคม 2565 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (หรือ เลขาธิการ ป.ป.ส. ) เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าไปยังแหล่งผลิตภายใต้ “แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัย” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 - 27 ธันวาคม 2565 โดยมี พันเอกอินปง จันทะวงสา เลขาธิการคณะกรรมการตรวจตราและควบคุมยาเสพติด (LCDC) สปป.ลาว และพลตำรวจ จัตวา วินหน่ายเลขาธิการร่วมสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติดเมียนมา ร่วมประชุมดังกล่าว เพื่อการควบคุมยาเสพติด 6 ประเทศ ระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2565 - 2565) ณ โรงแรมเดอะ เฮอริเทจ พัทยาบีชรีสอร์ท จังหวัดชลบุรี

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้เน้นย้ำการสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าไปสู่แหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรม โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้เสนอแนวทางการควบคุมสารโซเดียมไซยาไนด์ สารเบนซิลไซยาไนด์ และสารเบนซิลคลอไรด์ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และต่อมาวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 กรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้ออกประกาศระงับการนำเข้าส่งออกสารเคมี ทั้ง 3 ชนิด”  

เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตนได้นำแนวทางดังกล่าวเข้าที่ประชุมครั้งนี้เพื่อหารือร่วมกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยที่ประชุม ได้เห็นชอบร่วมกันในประเด็นสำคัญ คือ ความร่วมมือในการสกัดกั้นและควบคุมยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ สารตั้งต้น โดยส่งเสริมให้มีการเพิ่มการตั้งด่านสกัดกั้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างทันท่วงที โดยให้มีการตั้งผู้ประสานงานอย่างทันท่วงทีในทุกระดับ รวมทั้งให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนและสนับสนุนข้อมูลการข่าว รวมถึงผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ระหว่างกัน นอกจากนี้ ให้เพิ่มการเฝ้าระวัง และควบคุมเคมีภัณฑ์ สำคัญ 3 ชนิด ที่อาจมีการนำไปใช้ในการผลิตยาเสพติด โดยมีการตรวจสอบการนำเข้า ส่งออก และตรวจสอบปริมาณการนำไปใช้ที่ถูกที่กฎหมาย 

นอกจากประเด็น เรื่องการควบคุมสารเคมีทั้ง 3 ชนิด สำนักงาน ป.ป.ส ยังเสนอที่ประชุมให้ประเทศต่างๆ ควบคุมสารเคมี ที่ชื่อว่า “ไฮดรอกซีลิมีน” (Hydroxylimine : HI ) ที่นำไปใช้ในการผลิต

เคตามีน สร้างมาตรฐานการควบคุมให้เท่าเทียมกันโดยเฉพาะในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และผลักดันให้ปัญหาการควบคุมดูแลและทำลายสารเคมีและยาเสพติดที่เป็นมาตรฐานความปลอดภัย เป็นวาระระหว่างประเทศ ผ่านสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UN Office on Drugs and Crime : UNODC) เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs : CND) ต่อไป พร้อมทั้งเสนอให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างเตาเผายาเสพติดและเคมีภัณฑ์แบบไร้มลพิษ

ในตอนท้าย เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวถึงแนวทางที่ประเทศไทยจะส่งเสริมให้มีมาตรการควบคุมการซื้อขายอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด เช่น เครื่องปั้มเม็ดยาบ้า ให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น และยังยินดีสนับสนุนให้มีการอบรมการการเก็บพยานหลักฐานให้กับ สปป. ลาวและเมียนมา พร้อมทั้งการจัดการศึกษาดูงานด้านป้องกันยาเสพติดให้เยาวชนของทั้งสามประเทศ ตลอดจน การฝึกอบรม ณ วิทยาลัยป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างประเทศ สำนักงาน ป.ป.ส. อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาทั้งอาคารและหลักสูตร เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเจ้าหน้าที่ด้านยาเสพติดของประเทศลุ่มน้ำโขง ในอนาคตอันใกล้ต่อไป