วันที่ 18 มีนาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่า ที่บริเวณลานจอดรถ และการจัดกิจกรรม ของเทศบาลเมืองกาญจนบุรี อยู่ฝั่งตรงข้ามวัดเทวสังฆาราม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ทางพรรคอนาคตใหม่ได้จัดตั้งเวทีปราศรัย ขึ้น โดยจัดนำเก้าอี้สีแดงจำนวน 1,000 ตัว พร้อมน้ำดื่มไปตั้งเพื่อให้ประชาชนไปร่วมฟังการปราศรัยของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในช่วงค่ำที่ผ่านมา

 

โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัย โดยไปถึงเวทีเมื่อเวลาประมาณ 19.20 น. ทันใดที่ นายธนาทร ไปถึงบรรดาประชาชน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ ต่างกรูเข้าไปหา นายธนาธร เพื่อขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกทำเอาสื่อมวลชนต้องหนีกลุ่มคลื่นประชาชนกันอลม่าน และนายธนาธร ได้ขึ้นเวทีทำการปราศรัยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ แล้วยุติการปราศรัยในเวลา 20.30 น. เพื่อเป็นการไม่รบกวนเวลาของประชาชน

 

สำหรับการปราศรัย ได้แต่พูดเรื่องของปัญหาของประชาชน เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้พูดถึงผู้สมัครของพรรคเลย โดยเฉพาะได้ถามถึงปัญหาของประชาชน กับการที่ต้องมีนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะสามารถดูแลพี่น้องประชาชนได้ ถ้าหากให้กลุ่มเผด็จการเข้ามาบริหารแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่จะไม่สามารถพูดหรือเรียกร้องอะไรได้เลย หากพูดมากก็จะถูกเชิญไปปรับทัศนคติ หรือไม่ก็เอารถถังออกมาขับเพื่อเป็นการข่มขู่ประชาชน

 

นายธนาธร ยังพูดถึงรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่เดิมบอกการเพิ่มบัตรทองบอกไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน สุดท้ายใกล้เลือกตั้งก็ออกมาเพิ่มเงินบัตรทอง หรือบัตรผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยก่อนหน้านี้อยู่มาต้องนานทำไมไม่ดำเนินการ ขอให้ประชาชนมองแล้วคิดตามว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

นายธนาธร บอกว่าการที่ตนเองออกไปพบประชาชน ทุกภาคจึงทราบว่าประชาชนประสบปัญหามาก ประชาชนแต่ละจังหวัดหันมาค้าขาย เช่นขายเครื่องจักร ขายทองคำ และหากให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อไป อาจจะต้องขายบ้านอีกก็เป็นได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่เชื่อก็ติดตามดูเองได้เลย และประชาชนที่สร้างฐานะให้ร่ำรวยได้ดีมากในช่วงนี้คือช่างซ่อมทีวี เพราะทีวีจะเสียบ่อยมาก และหน้าจอทีวีจะพบร่องรอยเท้าอยู่หน้าจอแทบทุกเครื่อง เรียกเสียงฮา ให้กับประชาชนที่ไปรอการปราศรัย เป็นอันมาก

 

นายธนาธร ได้กล่าวอีกว่ารัฐบาลทำอะไรก็จะเอื้อให้กับกลุ่มทุนของตนเองเป็นส่วนใหญ่ เช่นการออกบัตรก็บังคับให้ไปใช้จ่ายในกลุ่มทุนประชารัฐ แทบทุกอย่าง ประชาชนต้องเฝ้าติดตามแล้วจะทราบดีว่าเป็นจริงหรือไม่ และสุดท้าย นายธนาธร ได้กล่าวย้ำก่อนจะปิดการปราศรัย ว่าการเลือกตั้งย่อมดีกว่า เพราะประชาชนสามารถเข้าร้องเรียนเมื่อเกิดความเดือดร้อน แต่หากมาจากเผด็จการเข้าไปบริหารบ้านเมืองแล้ว ประชาชนจะไม่สามารถรองเรียนเรื่องความเดือดร้อนได้เลย เพราะหากพูดมากรู้มากจะถูกข่มขู่ทุกรูปแบบ และการเดินทางไปปราศรัยในครั้งนี้ได้มีอดีตผู้สมัครของพรรค ทษช. ดร.วรสุดา  สุขารมณ์ และพรรคเพื่อไทย พลโทมะ  โพธิ์งาม ไปร่วมฟังการปราศรัยด้วย ./