วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 จากการประชุมข้าวโลก ประจำปี 2022หรือ (The World’s Best Rice 2022) ที่จัดขึ้น ณ จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ผลการประกวดสายพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดในโลก ปรากฎว่า ข้าวหอมมะลิ 105 ของไทยชวดแชมป์ เสียท่าให้ข้าวหอมมะลิผกาลำดวน (Phaka Rumduol) จากกัมพูชาชนะพันธุ์ข้าวที่ดีที่สุดประจำปีไปครอง
ประเทศเข้าประกวดสายพันธุ์ข้าวในการประกวดครั้งนี้มีทั้งหมด 9 ประเทศด้วยกันคือ ไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย ปากีสถาน จีน และสหรัฐฯ ส่วนพันธุ์ข้าวลำดับที่ 3 ตกเป็นของข้าวหอม จากเวียดนาม ส่วนอันดับ 4 เป็นข้าวหอมจากลาว
ตามรายงานของเพจเฟซบุ๊ก Southeast Asia Stats เผยว่า ข้าวหอมมะลิผกาลำดวนจากกัมพูชาได้รับรางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ในการประชุมข้าวโลก TRT (The Rice Trader) นับตั้งแต่ปี 2009 โดยผลมาจากความนิยมของข้าวหอมมะลิเมล็ดยาวของกัมพูชา เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ซื้อข้าวจากต่างประเทศ และเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ส่งออกภายใต้เครื่องหมายรับรอง อังกอร์ มะลิ (Angkor Malys) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาการเกษตรของกัมพูชาที่ได้แจกจ่ายพันธุ์นี้ให้เกษตรกรใช้ปลูกในปี 2542 หลังจากพัฒนาและทดลองมา 10 ปีด้วย
ด้าน นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง ผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก 2565 (The World’s Best Rice 2022) ซึ่งข้าวหอมผกาลำดวน ของกัมพูชา ชนะข้าวหอมมะลิไทย ไปได้ว่า การตัดสินเป็นไปตามเกณฑ์ ที่คณะกรรมการได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยที่ผ่านมา จากการประกวดตั้งแต่ปี 2552 ไทยสามารถชนะการประกวดมาได้ถึง 7 ซึ่งการประกวด ย่อมมีโอกาสแพ้ชนะ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่เชื่อว่าผลจากการประกวดครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบ ต่อการส่งออกข้าวไทยแต่อย่างใด เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้ติดตาม ดูแลคุณภาพ มาตรฐาน ข้าวของไทยเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามประเทศไทย มีแผนในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว อยู่แล้วตามยุทธศาสตร์ข้าว ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ได้ 12 สายพันธุ์ โดยปัจจุบัน สามารถพัฒนาพันธุ์ข้าว ไปได้แล้ว 6 สายพันธุ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวพื้นนุ่ม ที่ตลาดต้องการสูง และ การจากทดลอง นำมาให้ผู้เข้าร่วมงาน ประชุมข้าวโลก ได้ทดลองชิม ก็ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถือเป็นทิศทางที่ดีของการส่งออก และ การพัฒนาข้าวไทยในอนาคต
สำหรับการส่งออกข้าว ปี 2566 ภาคเอกชนมองว่า การส่งออก น่าจะอยู่ที่ประมาณ 8 ล้านตัน โดยมีปัจจัยกระทบจาก ค่าเงินบาท ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง เศรษฐกิจโลกที่ซบเซา และ ตลาดผู้นำเข้าหลายประเทศ อาทิ ประเทศจีน ที่มีนโยบายปลูกข้าวเองภายในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าทำ ให้ยอดการส่งออกจะชะลอตัวลงบ้าง
ขณะที่การส่งออกข้าวในปี 2565 ยังต้องเน้นการรักษาตลาดเดิมส่งออกเดิม โดยเฉพาะประเทศกลุ่มตะวันออกกลาง อย่าง ตลาดอิรัก ซึ่งนำเข้าข้าวไทยมากกว่า 1 ล้านตัน รวมทั้งวางมาตรการเชิงรุกในการหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมทั้งรวมมือกับนักวิจัย เพื่อพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ให้ได้ผลผลิตต่อไร่ได้มากขึ้น แต่มีต้นทุนลดลง
©2018 CK News. All rights reserved.