ลดเงินสมทบ
วันที่ 21 กันยายน 2565 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 มีมติอนุมัติการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นค่าแรงเฉลี่ย ร้อยละ 5.02 และจะประกาศให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปนั้น กระทรวงแรงงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือนายจ้างผู้ประกอบการ และพี่น้องผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งได้รับความเดือดร้อน จากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอันเนื่องมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าครองชีพหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงแรงงาน จึงได้มีการเสนอมาตรการลดเงินสมทบทั้งฝ่ายนายจ้างและผู้ประกันตน โดย ครม.ได้มีมติเห็นชอบมาตรการในการช่วยเหลือลดเงินสมทบนายจ้าง และ ผู้ประกันตนมาตรา 33 จากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 3 ของค่าจ้าง และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบ จากอัตราเดือนละ 432 บาท เหลือในอัตราเดือนละ 240 บาท โดยเริ่มตั้งแต่งวดเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565 สำหรับฝ่ายรัฐบาล ยังส่งเงินสมทบในอัตราเดิม คือ ร้อยละ 2.75 ของค่าจ้างผู้ประกันตน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มาตรการลดเงินสมทบเพื่อช่วยเหลือพี่น้องผู้ประกันตนในสถานการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสมทบที่ลดลง 576 – 900 บาทต่อคน รวมเป็นเงินที่ลดลงประมาณ 9,080 ล้านบาท ไปใช้ในการเพิ่มสภาพคล่องมากขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาทางการเงินของผู้ประกันตนทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังเป็นการช่วยแบ่งเบาลดภาระต้นทุนที่สูงขึ้นและเพิ่มสภาพคล่องให้กับนายจ้าง เป็นจำนวนเงินกว่า 7,964 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้สถานประกอบการสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้ เงินสมทบที่ลดลงมากกว่า 17,044 ล้านบาท จะกลายเป็นเม็ดเงินที่นำมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะได้เร่งดำเนินการเพื่อให้ประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันภายในกำหนด จึงขอให้นายจ้าง และผู้ประกันตน มั่นใจในการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน โดย สปส.ภายใต้นโยบายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของผู้ประกันตนให้ตรงจุดและทันท่วงที เนื่องจากปัญหาเรื่องความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานเป็นเรื่องสำคัญ และจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
ขอบคุณภาพ ไทยคู่ฟ้า
©2018 CK News. All rights reserved.