วันนี้ (2 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าคดี กรณีที่คุณยายสุบิน บุตรงาม อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/3 ม.7 ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ว่า ถูกคนแปลกหน้า ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ จำนวน 3 คน มีผู้หญิง 2 คนและผู้ชายจำนวน 1 คน โดยผู้ชายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาหาคุณยายสุบิน พร้อมกับแจ้งว่าหลานสาวที่ชื่อนางสาวอภิญญา แสงแก้วเขียว อายุ28 ปี ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.กระบี่ ได้ไปกู้เงินกับนายทุนคนหนึ่ง จำนวน 80,000 บาท มีบ้านอยู่ที่อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ โดยครั้งแรกคุณยายไม่มีเงินให้ จากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ได้บังคับให้คุณยายสุบิน ถอดสร้อยคอทองคำหนักจำนวน 1 บาทให้ มีมูลค่ากว่า 30,000 บาท จากนั้นถัดมาอีก 2 วันก็กลับมาทวงอีกและได้บังคับให้ถอดสร้อยเลสข้อมือไปอีกจำนวน 1เส้น พร้อมกับให้ยายเซ็นต์หนังสือยินยอมรับสารภาพหนี้ แถมข่มขู่จะยึดวัวที่เลี้ยงไว้ด้วย จากนั้นญาติพี่น้องได้พาเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านหนองจอก ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (2 ก.ย.65) พ.ต.ท.เสฎฐกรณ์ สมัยจารุวัฒน์ สาวัตรใหญ่ สภ.บ้านหนองจอก ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายเรียกตัว น.ส.นิสารัตน์ รักษา อายุ 28 ปี ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ภายในเขตพื้นที่ อ.สำโรงทาบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนประเด็นที่มีตำรวจมาทวงหนี้ด้วย พอจะทราบว่า ว่าเป้นตำรวจสังกัด สภ.แห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากนี้มากเท่าไหร่
ในขณะที่นางสาวอภิญญา แสงแก้วเขียว ได้พาคุณยายสุบิน บุตรงาม พร้อมกับแม่ของตนเอง นางบุญชิต วังสรร อายุ 46 ปี และน.ส.ดวงนภา บุตรงาม เพื่อนของตนเอง ให้มาช่วยเป็นพยานยืนยันว่า น.ส.นิสารัตน์ ปล่อยเงินกู้ดอกโหดจริง เพราะเคยกู้มาแล้วและจะต้องจ่ายตามยอดและดอกที่แพงอีกด้วย
นางสาวอภิญญา แสงแก้วเขียว กล่าวว่า ตนเองนั้นยอมรับว่า ได้กู้เงินดอกโหดกับน.ส.นิสารัตน์ จริง โดยตนเองส่งดอกรายวันๆละ1,300บาท หลังจากที่นางสาวนิสารัตน์ได้นำคนมาข่มขู่ยายของตนเองที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ซึ่งเขาก็เรียกดอกเพิ่มเป็น 1,500 บาทต่อวัน ซึ่งตนเองพยายามพูดเจรจาต่อรองมา จนกระทั่งมาข่มขู่ยายและเรียกร้องวันละ 1,500 บาท ซึ่งตนว่ามันไม่ถูกต้องและตนเองต้องขออภัย ที่ได้ปล่อยให้ยายมารับภาระ เพราะตนเองไม่คิดเลยว่านายทุนดอกโหดจะมาข่มขู่ยายถึงขนาดนี้ ส่วนในเรื่องการร่วมลงทุนทำงานกับผู้อีกฝ่ายนั้น ไมเป็นความจริงและไม่เคยลงทุนอะไรด้วยกันเลย เป็นเพียงข้อกล่าวอ้าง นางสาวอภิญญาฯ กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ประสิทธิ์ ทำดี รองสารวัตร พนักงานสอบสวน สภ.หนองจอก กล่าวว่าจริงๆแล้วคดีนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวนกับผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหากำลังหาประจักษ์พยานให้มันแน่ชัดก่อนว่าใครผิดใครถูก ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเองก็กำลังสอบปากคำทั้งสองฝ่ายอยู่ คงต้องใช้เวลาและคาดว่าคงจะสรุปผลให้เร็วที่สุด
©2018 CK News. All rights reserved.