วันนี้(2 ก.ย.65) ผู้สื่อข่าว ประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานถึงความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุเด็กชายวัย 15 ปี จมน้ำ เมื่อช่วงบ่ายห้าโมงเย็น เมื่อวันที่ 31 ส.ค.65 ที่ผ่านมา หลังเด็กวัยรุ่น จำนวน 4 คน จากบ้านพันธุ์ศรี ต.จารพัตร อ.ศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) พากันขับรถจักรยานยนต์ มาเล่นน้ำ และล้างรถ ที่บริเวณสันอ่างเก็บน้ำลำพอก ต.กุดหาย อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งน้ำกำลังไหลล้นปริ้นเวย์ และไหลเชียวรุนแรง จากพายุและฝนที่ตกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มเด็กหนุ่มวัยรุน ทั้ง 4 คน ก็พากันมาเล่นน้ำ และนำรถจักรยานยนต์ มาล้าง ทำความสะอาด และปรากฎว่า หนึ่งในเด็กวัยรุ่นเยาวชน ชาย ทราบชื่อว่า นายธวินย์  ฤกษ์ดี อายุ 15 ปี ได้กระโดดลงไปในอ่างเก็บน้ำ ที่มีผักตบชวา และจอกแหน ปกคลุ่ม ผิวน้ำไว้ และน้ำไหลเชี่ยวกรากแรง ลงไปตามคลองระบายน้ำด้านล่างสปริ้นเวย์ ร่างของนายธวินย์  ได้จมหายลงไปในอ่างเก็บน้ำลำพอก และไม่โผล่ขึ้นมาอีก

จากนั้นเพื่อนๆได้แจ้งให้กับญาติในหมู่บ้านได้ทราบ และประสาน ขอความช่วยเหลือ จาก อบต.ยาง อบต.กุดหวาย ฝ่ายป้องกันอำเภอศีขรภูมิ ในการออกค้นหา บริเวณที่นายธวินย์ กระโดดลงไป และพื้นที่ใกล้เคียงก็ยังไม่พบร่างของนายธวินย์ พร้อมนำรถแบคโฮ จากชลประทานสุรินทร์ ที่รับผิดชอบอ่างเก็บน้ำลำพอก   เข้ามาช่วยในการขุดตักเอาตักตบชวาและจอกแหน ที่ปกคลุมผิวน้ำ ที่คาดว่าร่างของนายธวินย์  จะไปติดอยู่ ตลอดการค้นหา ตลอด 2 วัน 2 คืนที่ผ่านมาก็ยังไม่พบร่าง

 

แม้คุณยายอวย อายุ 65 ปี ยายนายของนายธวินย์  พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้นำเครื่องเซ่นไหว้ มาไหว้เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อขอโทษขอขมา ให้เจ้าที่ได้ปล่อยให้พบร่างนายถวิล กลับมา แต่ก็ยังไม่พบโดยคุณยายอวย ซึ่งเป็นยายของนายธวินย์ บอกว่าตนเอง มีลูกทั้งหมด 7 คน และคนที่จมน้ำหาย เป็นหลานชาย พ่อแม่ของเขา ได้เสียชีวิตหมดแล้ว ตนเองเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เด็ก จนโต ไม่คิดว่าเขาจะจากไปเร็วขนาดนี้ ตนเองเสียใจมาก รักเขาเหมือนกับลูกชายจริงๆคนหนึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นหลานชาย มาเซ่นไหว้บอกเจ้าที่ตายาย เพื่อขอร่างหลานชายกลับบ้าน ไปทำบุญที่บ้าน นายอวยฯกล่าว  ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 08.30 น.ชาวบ้านที่ไปตกเบ็ด พบศพเด็กหนุ่มเคราะห์ร้ายลอยขึ้นอืด ออยู่ภายในคลองบ้านตามะ ตำบลเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ แล้ว โดยศพลอยมาไกลห่างจากที่เกิดถึง 22 กิโลเมตร  สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวญาติพี่น้องละเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่ง   ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยได้นำร่างผู้เสียชีวิต นำส่งโรงพยาบาลเพื่อผ่าพิสูจน์ ก่อนที่จะนำร่างอันไร้วิญญาณมอบให้ครอบครัวและญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีทางศาสนาต่อไป