วันที่ 16 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Anurak Nakgamthong หนุ่มแท็กซี่หัวใจหล่อ เมื่อพบ สามี-ภรรยา อุ้มลูกน้อย นั่งร้องไห้อยู่ที่สถานีรถไฟหลักสี่ กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่า จึงโดนไล่ออกจากห้องกลางดึก ไม่มีที่ไป จึงเตรียมกลับบ้านที่อุดรธานี แต่รถก็หมดแล้วอีกทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินติดตัวอยู่ 500 บาท หนุ่มแท็กซี่เลยพาขึ้นรถแล้วขับไปส่งจนถึงหน้าบ้านที่ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ใช้เวลาเดินทางกว่า 12 ชั่วโมง สามารถส่งสามีภรรยาและลุกถึงบ้านอย่างปลอดภัย

นายอนุรักษ์ นาคแถมทอง โชเฟอร์แท็กซี่ใจดี เปิดเผยว่า วันนั้นขับแท็กซี่ที่กรุงเทพฯ เป็นวันแม่วันที่ 12 ส.ค.ขับรถตระเวนรับผู้โดยสารแถวถนนวิภาวดี-รังสิต มาถึงสถานีรถไฟหลักสี่ประมาณเที่ยงคืน ก็เจอพ่อแม่ลูกนั่งอยู่ริมทางหน้าสถานีรถไฟ คุณแม่อุ้มลูกนั่งร้องไห้อยู่ ผมก็เดินไปจอดเผื่อเขาจะให้ช่วยอะไร คุณพ่อก็เดินมาหาผมบอกผมว่า อยากกลับบ้าน ตอนแรกเขาบอกว่า เขาอยู่กุมภวาปี ผมก็ถามว่ากุมภวาปีอยู่ไหน เขาบอกว่า อยู่จ.อุดรธานี

"ผมก็ร้องโอ้โห อุดรธานีเลยหรือ ผมก็ถามว่า มาคุยกันก่อนไหมเกิดอะไรขึ้น คุยกันไปมาเขาก็ร้องไห้หนักมาก เขาก็เล่าให้ฟัง ถ้าช่วยได้ผมจะช่วย จนทราบเรื่องว่า ทำงานรับจ้างรายวันที่จีบหมู เจ้าของห้องไม่พอใจเลยออกจากห้องเห็นว่าไม่มีจ่ายค่าห้องด้วย ผมก็สงสารรวมทั้งเด็กด้วย 4 เดือน ผมจึงตัดสินใจว่า เดี๋ยวผมไปส่งให้เลยนะ ตกลงบ้านอยู่ อ.ศรีธาตุ ตอนนั่งอยู่ในรถ คนที่เป็นแม่ก็ร้องไห้ตลอด ผมก็ให้กำลังใจ แต่ผมก็ติดใจว่าทำไมไล่กลางดึก เขาบอกว่า เจ้าของห้องรำคาญเสียงเด็กร้องไห้ ไล่ไม่ให้อยู่

หนุ่มโชเฟอร์แท็กซี่ใจดี เล่าว่า ออกจากกรุงเทพเที่ยงคืนวันที่ 12 ส.ค.มาถึงบ้านที่อ.ศรีธาตุ ประมาณเที่ยงวันที่ 13 ส.ค.โดยผมไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียว แต่ก็มีเพื่อนๆ และน้ำใจชาวโซเซียลมาโอนค่าเชื้อเพลิงมาให้ เหตุที่ช่วยผมดูแล้วสงสารเด็กอายุแค่ 4 เดือน ตอนแรกมาไกลกว่า 446 ก.ม. ห่วงเรื่องรถจะเสีย แต่โชคดีที่รถไม่เสียขับรถแท็กซี่มาแล้ว 7-8 ปีก็เคยช่วยคนลักษณะแบบนี้บ้าง

พอไปถึงบ้านเรียบร้อยที่อ.ศรีธาตุ ก็กลับทันทีและตั้งใจว่าจะไปเยี่ยมลูกน้อยของทั้งคู่อีกไม่นาน เพราะน้องน่ารักมาก และขออนุญาตตั้งชื่อลูกน้อยว่า “น้องกาฟิว” เพราะหน้าตาน่ารักเหมือนแมว และครอบครัวนี้เหมือนแมว 9 ชีวิต