วันนี้ (7 สิงหาคม 2565)เวลา 11.00 น.ที่วัดโนนเจริญสุข ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีฌาปณกิจศพ 2 เด็กหญิงพี่น้อง คือ ด.ญ.ปรียา จารัตน์ อายุ 8 ขวบ และด.ญ.นิชมล สัตตบุศย์ อายุ12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 บ.โนนเจริญ ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ หลังจากเสียชีวิตจากเหตุการณ์เด็กหญิง 3 คนจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกันเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.65) ภายในบ่อพักน้ำในทุ่งนาข้างโรงเรียนบ้านโนนเจริญ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด ขณะที่แม่ของหนูน้อยทั้งสองคนที่เดินทางมาจากทำงานที่ กทม.คือ น.ส.จันทิมา จารัตน์ และคุณยายแมด จารัตน์ อายุ 72 ปี ยายที่เลี้ยงดูเด็กหญิงทั้ง 2 คนมาตั้งแต่เด็กเพราะแม่ต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯยังคงทำใจและรับไม่ได้กับเหตุการ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องสูญเสียลูกสาวและหลานไปพร้อมกันถึง 2 คน และยังไม่สามารถให้สัมภาษณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะคุณยาย ที่ยังคงร้องห่มร้องไห้อยู่ตลอดเวลาปริ่มจะขาดใจอยู่หน้าเมรุ โดยมีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน รวมทั้งคณะครูโรงเรียนบ้านโนนเจริญและเพื่อนฝูงเด็กนักเรียนที่มาร่วมงานศพ ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับเหตุกาณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อช่วงสายวานนี้ หลังจาก พ.ต.ท.กิ่งเพชร สุดเสียงสังฆ์ สารวัตรสอบสวน สภ.สังขะ อ.สังขะ .สุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุจมน้ำ บ้านโนนเจริญ ตำบลทับทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ที่เกิดเหตุ เป็นบ่อน้ำไว้พักน้ำและสูบน้ำออกจากนาข้าวในฤดูน้ำหลากของชาวบ้าน อยู่หน้าโรงเรียนบ้านโนนเจริญ ต.ทับทัน อ.สังขะ มีความกว้างยาวประมาณ4 เมตร ลึกประมาณ 3เมตร ขณะที่เกิดเหตุพบชาวบ้านเร่งให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจในที่เกิดเหตุ จากหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศาลเจ้าพ่อตาดาน ร่วมกับทีมกู้ชีพโรงพยาบาลสังขะ ได้นำผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ส่งโรงพยาบาลสังขะ ทำCPR เพ่อช่วยชีวิตแต่ ไม่เป็นผล เด็กท้ง 3 คนจึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลสังขะ ทั้ง 3 ราย
ทราบชื่อประกอบด้วย ด.ญ.ปริยา จารัตน์ อายุ 8 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 150 บ.โนนเจริญ ตำบลทับทัน,ด.ญ.นิชมล สัตตบุศย์ อายุ12ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 บ.โนนเจริญ ตำบลทับทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ (ทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน) และ ด.ญ.ศรัยฉัตร หนูปล้อง อายุ10ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 149 บ.โนนเจริญ ตำบลทับทัน อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำศพมอบให้ครอบครัวนำไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลด ทั้งนี้จากการสอบสวนเด็กๆที่อยู่ในเหตุการณ์ ยังให้การไม่ชัดเจน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ด้านนางกลิ่น สวนสันต์ น้องสาวยายของ 2 เด็กหญิงผู้ตาย (เครือญาติ) กล่าวว่า บ่อดังกล่าวมีน้ำปริ่มล้นมองไม่เห็นว่ามีบ่อ มีหญ้ามีต้นข้าวขึ้น เด็กๆคงจะไม่รู้ว่าเป็นบ่อกัน และทราบจากน้องเบลเพื่อนของผู้ตายที่รอดชีวิต บอกว่า ทั้ง 3 คนเดินลงไปในน้ำจากนั้นก็จมลงไปในน้ำทันที น้องเบลคิดวาทั้ง 3 คนมุดน้ำ แต่ทำไมพากันดำน้ำนานจัง พอเวลาผ่านไปสักพักจึงเอะใจคงคิดว่าจมน้ำกันไปแล้วเพราะไม่เห็นโผล่ขึ้นมาสักที จึงวิ่งไปบอกเพื่อนที่โรงเรียนและบอกชาวบ้านให้มาช่วย ก็สายเกินไปแล้ว น้องเบลไม่กล้าลงน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็นและเล่นกับสุนัขอยู่บนบก นางกลิ่นฯกล่าว
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 149 ม.5 บ.โนนเจริญ ต.ทับทัน อ.สังขะ ซึ่งเป็นบ้านที่จัดงานศพของเด็กหญิงที่จมน้ำเสียชีวิตอีก 1 คน คือและ ด.ญ.ศรัยฉัตร หนูปล้อง อายุ 10 ขวบ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของ 2 เด็กหญิงที่จมน้ำเสียชีวิต พบว่าบรรยากาศก็เป็นไปอย่างเศร้าสลด มีญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านเดินทางมาช่วยงานศพอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.65) ที่วัดแห่งเดียวกัน
นางริด มุมทอง อายุ 60 ปี ยายของ ด.ญ.ศรัยฉัตร หนูปล้อง กล่าวว่า เขาไปกัน 4 คน จมน้ำ 3 คน อีกคนวิ่งมาเรียกให้คนช่วย พอชาวบ้านไปถึงก็ไปช่วยปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่ทัน ปกติเด็กๆที่เสียชีวิตก็ไม่เคยไปเล่นแถวนั้น ตนยังคงทำใจไม่ได้ เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก แถวนี้ก็ไม่เคยมีใครจมน้ำแบบนี้ ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาช่วยเหลือเยียวยาอะไรเลย นางริดฯกล่าว
ด้าน นางบุญเยี่ยม มั่นยืน อายุ 52 ปี เพื่อนบ้านอยู่บ้านเลขที่ 31 ม.5 บ.โนนเจริญ ต.ทับทันฯซึ่งเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงข้ามโรงเรียนบ้านโนนเจริญ เปิดเผยว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนมีเด็กๆนักเรียนชายหลายคน พากันเดินจุดประทัดเล่นในโรงเรียนในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ก็ได้ยินมีคนบอกว่าเด็กๆจุดประทัดโยนไปโดนศาลตายาย ที่ตั้งอยู่ที่มุมขอบสนามของโรงเรียน ก็ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์การตายของเด็กทั้ง 3 คนหรือไม่ เพราะหลังจากนั้น 1 อาทิตย์ก็พบว่ามีฝนตกหนักฟ้าผ่าต้นสะเดาข้างศาลจนหักแตกแยกออกเป็น 3 แฉก เสียหายทั้งต้น ซึ่ง 2 อาทิตย์นั้นจะได้ยินเสียงอีการ้องทุกวัน ก็แปลกใจ จนมาเกิดเหตุการณ์เด็กจมน้ำเสียชีวิต 3 คนในครั้งนี้ ซึ่งหากว่าศาลตายายหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะโกรธหรือทำโทษที่มีเด็กจุดประทัดใส่จริง ก็ไม่น่าจะมาทำเด็กคนอื่นซึ่งไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เพราะเด็กหญิงกลุ่มนี้นิสัยดี ไม่เคยไปจุดประทัดแบบนั้น ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะทำโทษก็ไม่น่าจะทำให้เขาถึงตาย ทำแค่ให้เจ็บไข้ด้วยป่วยก็พอ แต่ตนก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนเด็กหญิงกลุ่มนี้ วันก่อนก็พากันมาซื้อขนม และน้ำหวาน อีกคนก็บอกว่าหนูชอบกินน้ำชาเขียว เขาบอกว่าชอบกินน้ำชาเขียวมาก จากนั้นอีกวันเขาก็พากันเสียชีวิต เมื่อวานหลังจากพวกเขาเสียชีวิต ตนจึงมาทำชาเขียวให้น้อง และจะทำให้เขากินจนกว่าจะเสร็จสิ้นงานศพ นางบุญเยี่ยมฯกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต้นสะเดาที่ถูกฟ้าผ่าดังกล่าวทางโรงเรียนได้มีการตัดออกแล้ว จนเหลือแต่โคนทิ้งไว้ให้เห็น
©2018 CK News. All rights reserved.