กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปพ.สส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ชม 13 และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เชียงใหม่ฯ ร่วมกันจับกุมตัว นายวิเชียร เตินขุนทด อายุ 64 ปี ชาวบ้าน ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ .เชียงใหม่ ขณะกำลังขับรถแบคโฮล ตักดินริมตลิ่งลำน้ำแม่ขาน บริเวณใต้ฝายน้ำท่าบ่อเย็น ท้องที่บ้านทุ่งศิลา หมู่ที่ 1 ต.ดอนเปา อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ เขตติดต่อ บ้านเหมืองฟู หมู่ 1 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ จากการตรวจพบพื้นที่ป่าริม แม่น้ำแม่ขาน ถูกบุกรุก เนื้อที่ประมาณ 3 - 1- 52 ไร่ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง ที่ใช้กระทำความผิดประกอบด้วย รถแบคโฮ หมายเลข ทะเบียน ตค 4872 เชียงใหม่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ยึด ไม้กระยาเลย 2 ท่อน ที่พบอยู่ในแม่น้ำขานอยู่ใกล้กับรถแบคโฮลของกลางระยะทางประมาณ 10 เมตร
ด้าน พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผบก.ปทส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีนายทุนได้เข้าขุดลอก หิน กรวดในแม่น้ำแม่ขานบริเวณใต้ฝายน้ำท่าบ่อเย็น ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่มีการขุดลอกเป็นที่ดินมีต่างชาติมาซื้อต่อจากคนไทย ต่อมาได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอนก นาคธร รอง ผกก.4 บก.ปทส.นำกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมชุดปฏิบัติการพิเศษ กก.4 บก.ปทส.ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแม่ขาน ฝายท่าบ่อเย็นพบรถแบคโฮลคันหนึ่งกำลังปฏิบัติงานขุด หิน กรวด ดิน ทราย ปรับพื้นที่อยู่กลางแม่น้ำแม่ขาน อยู่ห่างจากฝายน้ำท่าบ่อเย็นระยะทางประมาณ 40 - 50 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกคนขับรถรถแบคโฮลคันดังกล่าวมาสอบถาม ทราบว่านายวิเชียรฯ เป็นคนงานลูกจ้างของนายปกรณ์ฯ ซึ่งได้รับเหมางานมาทำการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำแม่ขานบริเวณดังกล่าว และตักทรายที่ขุดได้นำมากองไว้บนที่ดินของนางจิราภรณ์ เดเรนเทล ผู้ว่าจ้าง เพื่อนำเอาทรายดังกล่าวไว้ใช้ก่อสร้างตลิ่งแม่น้ำ ต่อมานางจิราภรณ์ เดเรนเทล เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่พร้อมกับบอกว่า ที่ดินบริเวรที่มีการก่อสร้างบ้านเป็นของตน ซึ่งได้ซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้าน ซึ่งริมตลิ่งถูกน้ำกัดเซาะเสียหาย จึงได้จ้างรถแบคโฮลของนายปกรณ์ฯ มาทำการปรับภูมิทัศน์ ซึ่งตนได้ขออนุญาตกรมเจ้าท่าเชียงใหม่
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบต้นไม้จำนวนหลายต้นถูกขุด ทำลาย อยู่ในแม่น้ำ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม้กระยาเลย 2 ท่อน ซึ่งถูกขุดลากถอนโคนและพบต้นไม้ขนาดเล็ก หญ้าปล้อง และต้นหญ้าไม้น้ำชนิดอื่น ๆ ถูกขุด ทำลาย ทำให้เสียหายอยู่ในแม่น้ำขาน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องมือตรวจวัดหาค่าพิกัดทางภูมิศาสตร์โดยใช้สัญญาณผ่านดาวเทียมผ่าน พื้นที่ป่าถูกบุกรุก พบมีเนื้อที่ประมาณ 3 – 1 – 52 ไร่ จึงได้แจ้งข้อหา ครอบครอง การก่อสร้าง ทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน และก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่วาง ดำเนินคดีต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.