วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมควบคุมโรค ว่าวันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันพบ ผู้ป่วยฝีดาษลิง รายที่สอง จากโรงพยาบาลวชิรพยาบาล กรุงเทพมหานคร

นายอนุทิน ยืนยันว่า สธ.ไม่เคยปกปิดข้อมูล ขอให้ประชาชนมั่นใจ เพราะการปิดข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อการควบคุมโรคระบาด

ส่วนประเด็นหากคนไทย และต่างชาติติดเชื้อฝีดาษลิงต้องมีการรักษาและค่าใช้จ่ายอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า กรณีเป็นคนไทย สามารถรักษาและเบิกจ่ายได้ตามสิทธิสุขภาพของแต่ละคนตามระบบ ส่วนชาวต่างชาติให้ใช้ประกันสุขภาพ

"ยืนยันว่า สธ. ต้องดูแลทุกคน เพื่อไม่ให้ โรคฝีดาษลิง แพร่กระจาย เหมือนอย่างที่เราดูแลทุกคนในช่วงโควิด-19 ดังนั้น ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า หากมีอาการป่วยเข้าเกณฑ์โรคฝีดาษลิงแล้วเข้ามาวินิจฉัยโรคจะได้รับการดูแลอย่างเต็มที่"

สำหรับผู้ป่วย ฝีดาษลิง รายนี้ เป็นชายไทย อายุ 47 ปี มีประวัติมีเพศสัมพันธ์กับชาวต่างชาติแบบรักร่วมเพศ โดย เมื่อวันที่ 12 ก.ค.65 มีอาการสงสัยว่าจะป่วย จากนั้น 2 วัน เริ่มมีไข้ ปวดตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต และ  1 สัปดาห์ต่อมา มีผื่นที่ อวัยวะเพศ ลำตัว หน้า แขนขา จึงมาตรวจที่รพ. ขณะนี้รับไว้ในรพ.และติดตามผู้สัมผัสมาตรวจและเฝ้าสังเกตอาการต่อให้ครบ 21 วัน

สำหรับชายรายดังกล่าว มีประวัติอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เข้าไปสอบสวนโรคแล้ว

จากการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้สัมผัสร่วมบ้าน 10 ราย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจหาเชื้อ และให้สังเกตอาการ 21 วัน อย่างไรก็ตาม ทีมสอบสวนโรคกำลังเร่งหาผู้สัมผัสรายอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ หากประชาชนที่มีสงสัยว่าตนเองมีอาการป่วยเข้าได้กับโรคฝีดาษลิง สามารถติดต่อสถานพยาบาล เพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้