เมื่อวานนี้(27 กรกฎาคม 2565) เวลา 19.20 น.พ.ต.ท.กิ่งเพรช สุดเสียงสังข์ สารวัตรเวรสอบสอบสวน สภ.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วืทยุสื่อสารนเรนทร1669สุรินทร์ ว่ามีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณฝายน้ำล้น บ้านหนองน้ำใส ต.พระแก้ว อ.สังขะ หลังจากได้รับแจ้ง ได้รีบประสานทีมดำน้ำของหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศาลเจ้าพ่อตาดาน อ.สังขะ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้สูญหายในที่เกิดเหตุทันที ทราบชื่อผู้สูญหาย คือ ด.ช.ศิวัฒน์ แก้วหลวง อายุ 11 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 ม.4 ต.พระแก้ว อ.สังขะ และกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ร.ร.บ้านพระแก้ว
ในที่เกิดเหตุพบนายบุญมี วงค์สมัน อายุ 68 ปี ตาของผู้ตายและชาวบ้านมาเฝ้าดูเหตุการณ์อย่างใจจดใจจ่อ และต่างมีความหวังว่าผู้สูญหาจะยังมีชีวิตอยู่แม้โอกาสจะริบหรี่ก็ตาม เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทีมกู้ภัยยังไม่ทันได้ลงน้ำค้นหา จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.50 น.ก็พบศพผู้ตายลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุที่พบเสื้อผ้าและรองเท้าประมาณ 20 เมตร หน่วยกู้ภัยจึงนำศพขึ้นมา นายแพทย์สหรัฐ หงษ์ทอง แพทย์เวรชันสูตร รพ.สังขะ เดินมาชันสูตรศพในที่เหตุ ขณะที่คุณตาของผู้ตายถึงกับร้องห่มร้องไห้ด้วยความเสียใจ ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดูอยู่เป้นจำนวนมาก ด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดเป็นอย่างยิ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า หลังจากผู้ตายกลับจากโรงเรียนตอนเที่ยง เนื่องจากที่โรงเรียนมีการกิจกรรม จึงปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านก่อนตอนเที่ยง จากนั้นเวลาประมาณบ่ายโมง มีชาวบ้านเห็นน้องผู้เสียชีวิตเดินผ่านหน้าบ้านเพื่อที่จะไปเล่นน้ำ โดยมีรุ่นพี่ ป.6 เล่นน้ำอยู่ที่ฝายน้ำล้นอยู่ก่อนแล้ว แต่ก่อนที่น้องผู้เสียชีวิตจะเดินไปถึง รุ่นพี่ก็กำลังจะพากันขึ้นจากน้ำแล้วกลับบ้านส่วนน้องผู้เสียชีวิตได้ลงเล่นน้ำคนเดียวเพียงลำพัง ต่อมาเวลาประมาณ15.00 น.ชาวบ้านพบเสื้อกับรองเท้าของผู้ตายถอดว่างอยู่ข้างฝ่ายน้ำล้น แต่ไม่เห็นคน จึงไม่ได้เอะใจ คิดว่าเป็นเสื้อของรุ่นพี่ที่เล่นน้ำก่อนหน้านี้ถอดลืมไว้ จากนั้นเวลาประมาณ19.00น.ตาของผู้ตายจึงได้ออกตามหาหลานชายแล้วมาพบเสื้อผ้าหลานชายบริเวณดังกล่าว จึงคิดว่าหลานคงจมน้ำไปแล้ว จึงรีบแจ้งชาว้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว และคาดว่าผู้ตายจมน้ำเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 ช.ม. ส่วนพ่อแม่ของผู้ตายทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯและฝากคุณตาเลี้ยงดูแทน ก่อนจะมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มอบศพให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.