วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 พ.ต.ท.อิษฏากร เทพเนาว์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา,พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก.3 บก.ป., พ.ต.ท.วชิระ  อัมฤทธิ์ สว.กก.สสน.บก.ป. นำกำลังตำรวจชุดหนุมานกองปราบปราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันจับกุม นายประพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 261/2565 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ทำให้เสียทรัพย์, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยจับกุมได้ที่บริเวณซอยพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมศพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 09.20 น.พร้อมยึดของกลาง อาวุธปืนอีกจำนวน 4 กระบอก,เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวนกว่า 20 นัด,ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวนกว่า 30 นัด,และเสื้อเกราะจำนวน 1 ตัว

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 10.30 น.  ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยมิตรภาพ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้หลบหนีไป โดยบ้านหลังที่ถูกอาวุธปืนยิงใส่นั้น ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์    ดังกล่าว ได้ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เกิดความกลัว หวาดผวา เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่บ้านใกล้เคียงได้ ชาวบ้านจึงได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายประพัฒน์ฯ (ผู้ก่อเหตุ) ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของญาติ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงศาลาธรรมศพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าทำการตรวจค้นจับกุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เข้าทำการตรวจค้นบ้านที่นายประพัฒน์ฯ พักอาศัยอยู่ โดยมีชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ นำทีมเข้าตรวจค้น โดยขณะจับกุมนายประพัฒน์ฯ ยอมรับว่าเป็นผู้ไปก่อเหตุยิงปืนลูกซองใส่บ้านกลางเมืองโคราชจริง จากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนอีกจำนวน 4 กระบอก รวมถึงปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุด้วย ทั้งนี้ยังได้ตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวนกว่า 20 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวนกว่า 30 นัด, เสื้อเกราะจำนวน 1 ตัว และได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุไว้เป็นพยานหลักฐานในคดีด้วย

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวนายประพัฒน์ฯ พร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไปก่อเหตุยิงใส่บ้านเรือนประชาชนกลางเมืองโคราช เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาจริง โดยมีสาเหตุมาจาก ตนเองเข้าใจว่าเจ้าของบ้านหลังที่ตนเองยิงปืนใส่นั้นได้มาก่อเหตุหลอกลวงเอาเงินของตนไปกว่า 3 ล้านบาท ซี่งนายประพัฒน์ฯ ได้ไปเฝ้าดูที่บ้านหลังนี้มาประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว แต่ไม่เคยพบเจ้าของบ้าน และด้วยความโกรธแค้นที่ถูกหลอกลวงจึงได้หยิบปืนที่อยู่หลังรถยนต์ มายิงใส่เข้าไปในบ้านจำนวน 1 นัด เพื่อเป็นการเตือนเจ้าของบ้าน โดยไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายให้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรืออันตรายแต่อย่างใด