วันที่ 25 มิถุนายน – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาของโลก กรอบความร่วมมือ BRICS Plus (BRICS Plus High-Level Dialogue on Global Development) ครั้งที่ 14 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อหลัก “สร้างเสริมความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในศักราชใหม่เพื่อร่วมอนุวัติวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030” พร้อมผู้นำ 18 ประเทศ

นายกฯ แบ่งปัน 3 แนวคิดสำคัญที่เชื่อว่าจะช่วยให้สามารถร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพบนกฎกติกา และเคารพหลักธรรมาภิบาล ดังนี้

1.การพลิกฟื้นระบบพหุภาคีให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ในปัจจุบันและอนาคต ไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก มุ่งส่งเสริมการเคลื่อนย้ายขนส่งอาหารและสินค้าจำเป็นอย่างไร้รอยต่อ เพื่อช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหา โดยไทยพร้อมร่วมทำงานกับกลุ่มประเทศ BRICS ผ่านกลไก ACMECS อาเซียน ฯลฯ

2.ระบบพหุภาคีต้องมีความสมดุลทุกมิติ ร่วมกันผลักดันให้มีการปฏิรูปและปรับกระบวนทัศน์ใหม่ สู่ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระดับโลกในการบรรลุวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 โดยไทยมุ่งผลักดันการเจริญเติบโตหลังโควิด-19 ให้สมดุลมากขึ้น โดยนายกฯมุ่งหวังว่า การมีค่านิยมร่วมกันเรื่องความเปิดกว้าง และครอบคลุมจะช่วยเกื้อกูลความร่วมมือมากยิ่งขึ้น พร้อมสานต่อกิจกรรมต่าง ๆ ในปีแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนอาเซียน - จีน พ.ศ.2564 - 2565  

3.ระบบพหุภาคีต้องสร้างระบบธรรมาภิบาลเศรษฐกิจโลกที่เป็นธรรม ไม่แตกแยก และส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และไทยขอเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันการเงินระหว่างประเทศ เพื่อให้ประเทศกำลังพัฒนามีส่วนกำหนดนโยบายเศรษฐกิจมหภาคมากขึ้น

ไทยยินดีสนับสนุนข้อริเริ่มของจีนให้มีการพัฒนากรอบความร่วมมือ BRICS Plus ระหว่างกลุ่มประเทศ BRICS กับประเทศ EMDCs อย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ลดความขัดแย้งระหว่างกัน และในฐานะเจ้าภาพ APEC และประธาน BIMSTEC ไทยพร้อมเป็นสะพานเชื่อมความร่วมมือระหว่างกันจากมหาสมุทรอินเดียไปสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน