วันที่ 22 มิถุนายน – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน2565 ระบุว่า มีการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มเดือนกรกฎาคม นี้ อัตรา 1 บาท ต่อกิโลกรัม เป็น 408 บาท ต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1กรกฎาคม 2565 จนถึงวันที่ 30 กันยายน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ไปแล้วนั้น

ล่าสุด เพจ กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน โพสต์ข้อความเชิญชวนประชาชนใช้พลังงานทางเลือก ระบุว่า เตามหาเศรษฐี ร้อนสูง ประหยัดถ่าน ทนทาน ช่วยประหยัดเงิน

สำหรับเตามหาเศรษฐี มีประสิทธิภาพสูง คือมีความทนทานมากขึ้น จุดไฟติดเร็วขึ้นไม่มีควัน และแก๊สพิษที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ หุงต้มสุกเร็ว เก็บความร้อนได้นานกว่าเตาอั้งโล่ทั่วไปถึง 29 % สามารถวางหม้อหรือภาชนะประกอบอาหารได้ถึง 9 ขนาด ตั้งแต่เบอร์ 16-32ประหยัดฟืน และถ่านได้มากกว่า เตาอั้งโล่ธรรมดาถึง 30 - 40 % ถ้าหากตามบ้านเรือนหันมาใช้เตามหาเศรษฐี จะสามารถประหยัดไม้ ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือน

นอกจากนี้ ยังมีมีคุณสมบัติเด่น คือ มีลักษณะเพรียวและน้ำหนักเบากว่า ให้ความร้อนสูง อุณหภูมิกลางเตาประมาณ 1,000 – 1,200 องศาเซลเซียส / อายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 2 ปี ส่วนราคาเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง 200 -250 บาท ใช้ถ่านหุงต้ม 528.5 กิโลกรัมต่อปี ค่าถ่านต่อปี 6,342 บาทต่อปี

ส่วนของการเก็บรักษา คือ อย่าให้น้ำหรืออาหารรดเตา เพื่อป้องกันเตาเป็นสนิม และ ผุกร่อนง่าย เก็บรักษาเตาไว้ในที่ร่มไม่เปียกฝนหรือในที่ๆ มีความชื้นสูง หากไม่ใช้เตาเป็นเวลานาน ควรใช้น้ำมันชโลมเพื่อป้องกันสนิม การเคลื่อนย้ายเตา อย่าวางกระแทกเพราะจะทำให้ฉนวนบุเตา ไม่ติดแน่นกับตัวถัง ฉนวนบุที่ฉาบไว้โดยรอบผนังกรวยด้านใน หากมีการแตกร้าวหรือ หลุดร่อนให้ใช้ดินเหนียวผสมขี้เถ้าแกลบในอัตราส่วน 1 : 5 ยาทับรอยชำรุดนั้น