นายไพรัช เพชรยวน รองผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า   วันนี้ 14  มิถุนายน 35  มีพลเมืองดีท่านหนึ่ง  ใช้เฟสบุ๊คชื่อ  “ บังอร แก้ววิไล ”  โพสต์แจ้งข้อความ เพื่อขอช่วยเหลือ  หญิงคนหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาในชีวิต   เพิงพักอาศัยพัง  และมีสภาพความเป็นอยู่ที่น่าสงสาร

โดยในโพสต์นั้นระบุข้อความว่า  “  ขอความเมตตาจากผู้ใจบุญ..ช่วยเหลือ..บ้านป้าติ๋ม..ทรุดตัวลงไป   ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้   ข้าพเจ้าจึงขอความอนุเคราะห์   ผ่านสื่อนี้   เพื่อขอความช่วยเหลือ..เนื่องจากป้าติ๋มน่าสงสารมาก  พิกัดที่อยู่ เยื้องกับ รพ.อุทัย ตรงข้ามกับ กศน.อำเภออุทัย

โดย  นายไพรัช ยังกล่าวอีกว่า ได้รายงานเรื่องนี้ถึง นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้มีการสั่งการให้  นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภออุทัย  ลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริงในทันที

ซึ่งพบว่าบ้านหลังดังกล่าว  ไม่มีเลขที่ สภาพเป็นเพิงพัก ปลูกด้วยวัสดุแบบไม่แข็งแรงและไม่มั่นคง คล้ายเพิงสังกะสีผุ  ไม่มีเลขที่ อยู่ในเขต ม.5 ต.อุทัย อ.อุทัย และเพิงพักได้พังลงมา   จนไม่มีสภาพที่จะพักอาศัยได้ สาเหตุพราะผุ เก่าและชำรุด

สำหรับเพิ่งพักหลังดังกล่าว    เป็นของ ป้าติ๋ม หรือ นางวิภา  ขอสงวนนามสกุล อายุ 59 ปี  ซึ่งได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ว่า   เดิมที่ตนเองเป็นชาว จ.ชลบุรี   พ่อแม่ เสียชีวิตไปแล้ว  ส่วนสามีเลิกลากันไปนาน มีบุตรด้วยกัน 1 คน  และบุตรได้เสียชีวิตไปนานแล้วเช่นกัน  ทำให้ปัจจุบัน  ป่าเติ๋ม  อยู่เพียงลำพังคนเดียว

ส่วนอาชีพ คือ รับจ้างทั่วไป และบางครั้งรับจ้างเฝ้าคนไข้ใน รพ.อุทัย  รายได้ไม่แน่นอน  ปัจจุบันไม่มีบัตรประชาชน  และไม่มีทะเบียนบ้าน และหลังจากเพิงพักอาศัยพังลง   ได้ไปอาศัยอยู่กับคนรู้จัก   มีศักดิ์เป็นหลานในเขต อ.อุทัย

แนวทางช่วยเหลือนั้น  1. ทางฝ่ายปกครอง   จะขอตรวจสอบอย่างละเอียด  ว่า ป้าติ๋ม  เป็นคนไทย จริงหรือไม่   หากจริงจะหาทางช่วยเหลือ   ได้ทำบัตรประชาชน    เพื่อรับสิทธิต่าง ๆ ของความเป็นพลเมืองชาวไทยตามกฎหมาย

2.กรณีเพิงพักอาศัยที่พัง   ทราบว่าเป็นที่เช่า จะได้ติดต่อเจ้าของที่ดิน ว่าจะอนุญาตหรือไม่ หากหน่วยงานภาครัฐ   จะเข้ามาดำเนินการปรับปรุงที่พักของป้าติ๋ม  หากอนุญาตจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือในทันที

และ 3.จะหาทางเพื่อช่วยเหลือส่งเสริมอาชีพ เพื่อเพิ่มรายได้ต่อไป