วันที่ 10 มีนาคม 2562 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ  เขต 1 อ.เมือง จ.สกลนคร  มีการปราศรัยพรรคพลังประชารัฐ   นำโดย นายชัยมงคล  ไชยรบ  นายก อบจ.สกลนคร  ในฐานะประธานยุทธศาสตร์การเมืองการเลือกตั้ง ของพรรคพลังประชารัฐภาคอีสานตอนบน  ใช้วันหยุดมาปราศรัยหาเสียงช่วย  นายสุมนิศร์ ทีฆธานนท์  อดีตรองนายกเทศมนตรีนครสกลนคร บุตรชาย นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร  ซึ่งเป็นผู้สมัครเลือกตั้ง สส.ในเขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคพลังประชารัฐ  หมายเลข 8  โดยมีประชาชนในเขตเทศบาลนครสกลนคร  43 ชุมชน กว่า 2,500 คน มารับฟังการปราศรัย ซึ่งนายโกมุท ทีฆธนานนท์ ปราศรัยเป็นคนแรก บอกว่าขอฝากบุตรชายให้มีโอกาสได้ทำงานการเมืองด้วยการเป็น สส. และขอยืนยันว่าเลือกพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากสามารถหยุดความแตกแยกของคนในชาติ ซึ่งที่ผ่านมา  บุตรชายของตนได้ทำหน้าที่ในด้านการเมืองมามากพอสมควร และควรที่จะก้าวขึ้นสู่การเมืองระดับชาติ  ดังนั้น ขอให้ประชาชนให้โอกาสแก่ สุมนิศร์  ทีฆธนานนท์ หมายเลข 8 ได้มีโอกาสทำงานในหน้าที่ สส.ด้วย

 

นายกฤชนพล  พิริยะบุญญา  ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัยเป็นคนต่อมา กล่าวว่า ประเทศชาติบอบช้ำมามากพอ เนื่องจากความแตกแยกของคนในชาติ  มีการแบ่งแยกแบ่งสี  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  จึงเข้ามายึดอำนาจ  ก่อนยึดอำนาจก็ให้กลุ่มนักการเมืองทุกฝ่ายเข้าไปตกลงกันก่อนแต่ตกลงกันไม่ได้ จึงประกาศ ณ ที่ตรงนั้นว่าถ้าสมานฉันท์กันไม่ได้ตนขอยึดอำนาจ  และตั้งแต่นั้นมาเป็นเวลา 5 ปี ที่ไม่มีความแตกแยกเกิดขึ้นอีก และขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นหัวหน้า คสช.ก็ได้นำนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนทุกระดับ โดยเฉพาะคนรากหญ้า และยังหยิบยกบทกลอนขึ้นมากล่าวเปรียบเทียบหลายครั้ง เรียกเสียงปรบมือจากผู้มาฟังการปราศรัย  ในขณะที่ นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.กล่าวว่า อบจ.และเทศบาลฯ เป็นพันธมิตรกัน เราทำงานร่วมกันมาโดยตลอด เช่นตอนเกิดอุทกภัยใหญ่ก็ประสานความช่วยเหลือมาสู่พี่น้องประชาชน ที่มาวันนี้มาขอให้รองต่อ (สุมนิศร์) ได้เป็น สส.เมื่อได้รองต่อเป็น สส.แล้ว พี่น้องยังได้ นายกตุ้ย (โกมุท) แถมได้ นายกต่าง (ชัยมงคล) อีกด้วย และยังได้นายกลุงตู่  เป็นนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ทำให้ประชาชนปรบมือเกรียวกราวเสียงดังสนั่น

 

 

นายสุมนิศร์  ทีฆธนานนท์  ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 หมายเลข 8  กล่าวว่า ตนทำงานการเมืองโดยการเป็นสมาชิกสภาเทศบาลฯ มาตั้งแต่อายุ 26 ลาออกมาลง สส.ครั้งนั้นก็แพ้  โดยได้คะแนน กว่า 3 หมื่นคะแนน เมื่อไม่ได้เป็น สส. นายกชัยมงคล  นายก อบจ.สกลนคร ก็เชิญเข้าไปเป็นที่ปรึกษา และกลับมาเป็นรองนายกฯ เทศบาลนครสกลนคร พร้อมทั้งได้รักษาการนายกฯ จนลาออกมาลงสมัคร สส.ในครั้งนี้  ก็ขอนำนโยบายมาให้พี่น้องได้พิจารณา เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  ค่าน้ำ ค่าไฟ  ที่รัฐจ่ายให้กับคนจนรากหญ้า เงินเบี้ยผู้สูงอายุ  เงินค่าป่วยการ อสม. จากเดิม 600 เป็น 1,000 บาท พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน  เงินช่วยเหลือชาวนาข้าวได้ราคาชาวนาได้เงินเพิ่ม  แก้ปัญหา สปก.4-01 โอนสิทธิ์ได้  โครงการมารดาประชารัฐ ที่ดูแลเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 6 ปี เป็นเงิน 180,000 บาท  เชื่อมั่นว่าไม่มีรัฐบาลไหนทำได้  แต่ตนเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำสำเร็จเพราะทำมาแล้ว จึงขอชูให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก