วันที่ 4 พฤษภาคม – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดเหตุระทึกชายคลุ้มคลั่งควงขวาน และปืนปลอมขี่รถจักรยานยนต์ บุกเข้าไปถึงลานจอดเครื่องบินภายในพื้นที่หวงห้าม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และถือขวานเหล็กไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่และวิ่งอยู่ใกล้เครื่องบินบริเวณหลุมจอดที่ 101เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพยามเข้าจับกุมตัว แต่ชายคนนี้วิ่งหนีขึ้นบันได้ท่าเทียบเครื่องบินจุดที่สามารถเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารได้ทุบกระจกประตูแตกก่อนจะถูกจับกุมไว้ได้ ทราบชื่อต่อมา นายวัชระ คำอายุ 34 ปี ชาวจังหวัดเลย พร้อมของกลางปืนปลอมสั้น 1 กระบอก ขวานด้ามเหล็ก กรรไกรปลายแหลม 1 อัน ยาบ้าสีส้ม 1 เม็ด และมีอาการเมาสารเสพติด
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผอ.การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ชายคนนี้ขี่รถจักรยานยนต์อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่จุดตรวจรักษาความปลอดภัยตรงประตูทางเข้า contro post 3 ด้านขาเข้าซึ่งเป็นพื้นที่หวงห้ามสูงสุด โดยอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่ขับรถกระบะกำลังเข้าพื้นที่หวงห้ามชักปืนถือที่มือซ้ายแล้วขี่รถจักรยานยนต์ตามกระบะเจ้าหน้าเข้าสู่พื้นที่ด้านใน เจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ติดตามใช้เวลาเพียง 9 นาที โดย จากเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไม่ได้หละหลวมแต่อย่างใด และมีแผนเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์ตลอดเวลา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ผู้ต้องหาอาศัยจังหวะที่รถของเจ้าหน้าที่กำลังผ่านประตูทางทางเข้า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของสนามบิน
นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะได้เรียกฝ่ายรักษาความปลอดภัยมาทบทวนและเพิ่มแนวทางป้องกันเหตุในลักษณะเช่นนี้ อย่างไรก็ตามผมมุ่งเน้นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านชีวิตของเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในเรื่องของชีวิตไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตาม จากกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ของการท่าฯใช้หลักประเมินสถานการณ์และคำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ก่อนจะตัดสินใจเข้าชาร์จจับกุมตัวได้สำเร็จ
ด้าน ร.ต.อ.ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตร(สอบสวน) เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งยังคงอยู่ในอาการเมาสารเสพติด ทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพเป็นพนักงานคลังสินค้าแห่งหนึ่งที่ย่านอ.บางเสาธง หลังเลิกงานออกกะเช้าจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากคลังสินค้ากลับไปที่ห้องพักในเคหะเมืองใหม่บางพลี จนกระเกิดอาการประสาทหลอนอ้าง ว่ามีคนบอกให้ไปปล้นเครื่องบินจึงคว้าอาวุธขับรถจักรยานยนต์มุ่งหน้ามาที่สนามบินพอมาถึงประตูทางเข้าดังกล่าวเป็นจังหวะที่รถเจ้าหน้าที่กำลังเข้าพื้นที่จึงเร่งเครื่องแซงซ้ายเข้าไปจนกระทั่งถูกตามจับกุมตัวได้สำเร็จ
เบื้องต้นแจ้ง 6 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย 1.ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๕๕๘ มามาตรา 19 ผู้ใดใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทําการอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ถ้าการกระทํานั้น เป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยาน ผู้กระทําต้องระวางโทษประหารชีวิต จําคุกตลอดชีวิต หรือจําคุกตั้งแต่ 15-20 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000-800,000 บาท,2.พกพาอาวุธ (ขวาน) ไปในทางเมืองชุมชนและพื้นที่ห้วงห้ามเขตการบินโดยไม่ได้รับอนุญาต,3.ทำให้ผู้อื่นเกิดความตกใจกลัว, 4.ขับขี่ยานพาหนะขณะเสพสารเสพติดในร่างกาย,5.ทำให้เสียทรัพย์ และ 6.ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน
©2018 CK News. All rights reserved.