วันที่ 7 มี.ค. 65 เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ตั้งโต๊ะแถลงความคืบหน้าของคดีการเสียชีวิตของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ จากเหตุพลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 65 เวลาประมาณ 22.40 น. และพบร่างเมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 26 ก.พ. 65 ที่ผ่านมานั้น
ก่อนที่จะเริ่มการแถลงข่าว ทางทีมโฆษกตำรวจ ได้แจ้งให้ทราบว่า ในขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและหลักฐานคดี ตามกรอบของกฎหมาย ไม่สามารถเล่าทุกเรื่องได้ แต่จะเล่าขั้นตอนการดำเนินการจากทางตำรวจ และจะมีการแถลงข่าวทุกวันในเวลา 10.30 น. เพื่ออัพเดตข่าวสารการดำเนินการให้สื่อมวลชนรับทราบ
ล่าสุด มีการสอบปากคำไปแล้ว 65 ปาก ทั้งพยานแวดล้อม และพยานบุคคล มีทั้งเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ แต่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคดีให้มากที่สุด โดยในวันนี้มีการสอบปากคำ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ในประเด็นที่น่าสนใจ รวมถึงเจ้าของเรือ และกำลังรอผลตรวจหลังจากส่งเนื้อเยื่อศพไปตรวจสอบเพิ่มเติม
ทั้งนี้ มีการตรวจค้นบ้านของนายจ็อบ สาเหตุที่ตำรวจไปตรวจค้นบ้านนายจ็อบ เนื่องจากมีการดื่มสุราหรือไวน์บนเรือ แต่ยังไม่ได้ข้อมูลว่าวันดังกล่าว นายจ็อบนำเหล้าชนิดใดไปดื่มสังสรรค์บนเรือ ส่วนเรื่องรายละเอียดเพิ่มเติมขอให้อยู่ในสำนวน ไม่สามารถให้ข้อมูลได้
ส่วนประเด็นของการทิ้งขวดลงในแม่น้ำ ยังไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นการพยายามทำลายหลักฐานหรือไม่ ตำรวจได้ตั้งคำถามว่าหากทิ้ง ทิ้งเพื่ออะไร ซึ่งจะต้องสืบทราบความจริงก่อนว่า นำมาสู่การเจตนาฆ่า หรือข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ และประเด็นของเรื่องคนบนเรือได้มีการไปปรึกษาเรื่องคดีกับนักการเมืองใน จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ต้องหารือกับทีมสอบสวนก่อน ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ในตอนนี้
ในประเด็นของนายโรเบิร์ต กับนายเก่ง ที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ได้มีตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว ยืนยันว่ายังไงก็ไม่มีผิดตัวอย่างแน่นอน ตอนนี้ที่ตำรวจสอบอยู่คือ โรเบิร์ตตัวจริง ส่วนเรื่องใบหน้าที่แตกต่างกัน ยังไม่ได้สอบถาม จะกลับไปสอบเข้าสำนวน
สำหรับกระแสข่าวของการขายข้อมูลของนายพล น. หนู ตำรวจยืนยันไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่เชื่อว่าตำรวจไม่มีทางเอาตัวเองมาเสี่ยงจะต้องเข้าคุกแน่นอน
ซึ่งในขณะนี้ได้มีการเกิดกระแสการสร้างเรื่องของแตงโม ทำให้สังคมเกิดความสับสน บางคนกุเรื่องขึ้นมา เพื่อให้ตัวเองได้ชื่อเสียง แต่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ตำรวจกำลังติดตามเบาะแสอยู่ และจะรีบดำเนินการโดยเร็วที่สุด แต่ยืนยันว่า ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา เพราะมีระบบตรวจสอบอยู่หลายขั้นตอน
ส่วนกระแสข่าวในเรื่องคนบนเรือมีการนัดหมายนายพล ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ข้อมูลนี้ไม่มีอยู่จริง และแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโม วอนอย่าสร้างภาระให้กับพนักงานสอบสวนที่ต้องมาตอบคำถามสังคม รวมทั้ง ไม่มีลักษณะที่จะชี้แจงได้ว่าเป็นการค้าประเวณี มอมยา หรือนำตัวส่งไปให้นายพลดังกระแสข่าวดังกล่าว โดยเฉพาะหลักฐานที่ระบุว่า ไม่มีการทำร้ายร่างกาย หรือยื้อยุดฉุดกระชากกันบนเรือ ทำให้เชื่อในระดับหนึ่งว่า ไม่มีมูลเหตุจูงใจในเรื่องนี้ ขณะนี้ยืนยันว่า ไม่มีรีบสรุปและปิดคดีนี้อย่างแน่นอน จะดำเนินการสอบสวนไปอย่างเป็นขั้นตอน แต่จะไม่ปล่อยให้ยืดยาวเช่นเดียวกัน
ในขณะนี้ได้มีการนำชิ้นส่วนของร่างแตงโมส่งไปตรวจสอบเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ใครต้องการมาตรวจสอบในคดีนี้ ขอให้เป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น ยอมรับว่า แม้จะเป็นยุคที่ตกต่ำของตำรวจ แต่เชื่อว่าตำรวจมีเกียรติมากเพียงพอที่จะทำเรื่องนี้ให้โปร่งใส ปราศจากข้อกังขา
ทั้งนี้ ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนทุกประเด็นมาให้ตำรวจ เพราะเป็นประโยชน์ในชั้นสืบสวนสอบสวน เมื่อพยานหลักฐานมากขึ้น ก็จะทำให้ความจริงชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอความจริงว่า สอดคล้องกับการให้การของ 5 คนบนเรือให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ ซึ่งตำรวจยืนยันว่า มีการโกหกในชั้นสอบสวนจริง แต่ไม่สามารถเปิดเผยว่า ใครพูดและเป็นเรื่องใด
ต้องยอมรับว่า ทุกคนมีสิทธิ์ให้การอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อไปถึงชั้นศาล ต้องพูดตามคำให้การเท่านั้น คำพูดของพยานตำรวจเชื่อได้ประมาณหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญคือ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ อยากให้เกิดความมั่นใจว่า ตำรวจไม่ได้เชื่อแต่คำให้การ แต่ต้องสอดคล้องกับข้อมูลอื่นๆ ด้วย ในวันพรุ่งนี้จะมาแถลงว่า ไปค้นบ้านนายจ็อบแล้วพบอะไรบ้าง ส่วน แซน รับปากว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องของผลการตรวจเส้นผม ยังไม่ออกมา แต่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
สำหรับข้อมูลการโทรเข้า-ออก และแชทการพูดคุยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บไว้เป็นหลักฐานหมดแล้ว เป็นรายละเอียดหลักฐานทางเทคโนโลยี หากบริบทสอดรับ ก็สามารถใช้เสริมข้อมูลได้ทุกเมื่อ รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวน เชื่อว่าตำรวจรอบคอบที่สุด และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีการติดตามความคืบหน้าทุกวัน ถ้าหากมีหลักฐานที่ชัดเจนเพิ่มเติมมา คดีก็อาจจะถูกรื้อมาทำใหม่ได้
©2018 CK News. All rights reserved.