วันที่ 6 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศงาน”ปลดล็อกกัญชา กัญชง สร้างสุขภาพ สร้างรายได้”ที่จัดขึ้นที่อาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนโลยีการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 4-6 มี.ค.

วันสุดท้ายของการจัดงานวันนี้ บรรยากาศทั่วไปยังคึกคัก มีนักท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป นักธุรกิจ และผู้สนใจกัญชา กัญชง เดินทางมาชมและฟังการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาแต่ละด้าน ไม่ขาดสายเหมือน 2 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะมาศึกษาหาความรู้หากต้องได้ปลูกกัญชา หลังบ้านตัวเองอย่างไม่ผิดกฎหมาย

จุดที่ประชาชนสนใจเป็นพิเศษในวันสุดท้ายคือวิธีการเพาะและการปลูกกัญชาให้ได้ผล มีการสาธิตการเพาะเมล็ดกัญชา วิธีดูแล วิธีให้น้ำ ไปจนถึงวิธีการแต่งกิ่ง การให้ปุ๋ยตามอายุ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้สนใจเป็นอย่างมาก 

ส่วนห้องเสวาชั้น 3 ของอาคารเรียนรวม 100 ปี คณะเทคโนโลยีการจัดการ ได้มีการเสวนาหลายหัวข้อ เช่นการเสวนาของ รศ.ภก.ดร สุรพจน์ วงใหญ่ จากมหาวิทยาลัยรังสิต ในหัวข้อเรื่อง”ปั้นธุรกิจกัญชา ระดับเศรษฐกิจประเทศระดับสากล”มีนักธุรกิจยกมือสอบถามข้อสงสัยเป็นระยะ

และบทเสวนา ที่น่าสนใจมากที่สุด คือการเสวนาของนายชาติชัย โรจน์รุ่งรังสี เลาขานุการกรรมาธิการสาธารณสุข และนางธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยงแห่งประเทศไทยสำนักงานอุดรธานี ในหัวข้อเรื่อง”แนวทางการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวกัญชาชุมชน”เนื่องจากหัวข้อนี้มีความเกี่ยวโยงกับชุมชนแต่ละตำบล แต่ละอำเภอ

นายชาติชัย โรจน์รุ่งรังสี เลาขานุการกรรมาธิการสาธารณสุข กล่าวหลังเสวนา ว่า หลังจากโรคโควิด-19 ซาลง การท่องเที่ยวแต่ละประเทศจะมีการแข่งขันสูง แต่ละประเทศต้องการเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงมานาน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่ต่างชาติต้องการเดินทางมาเที่ยวอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้คือพ้นประกาศในราชกิจจานุเบกษา การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดแบบสมบูรณ์ และรัฐบาลอนุญาตให้คนไทยปลูกกัญชาที่บ้านของตัวเองได้อย่างเสรี แค่ทำการจดแจ้งเท่านั้น ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวมากที่สุด เพราะกัญชา กัญชง เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสนใจมาก

นายชาติชัย กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ประเทศไทยเราเหมือนมีอาวุธลับที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ยังไม่มีประเทศใด ปลดล็อกกัญชา กัญชง แม้แต่ประเทศเดียว กฎหมายค่อนข้างจะล้าหลังถ้าเทียบกับเมืองไทย หลังจากนั้นเชื่อว่านักท่องเที่ยว 9 ใน 10 คน ต้องการลองและใช้บริการกัญชาในรูปแบบต่างๆอย่างแน่นอน 

ที่ผ่านมาประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างอึดอัด เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หากโควิดซาลง นักท่องเที่ยวจะเลือกสถานที่ที่อยากจะไปประเทศแรก “กัญชา กัญชง”จะเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวอยากจะมาเที่ยว อยากจะมาชมมากที่สุด

ส่วนตัวคิดว่าก่อนหน้านี้”ข้าวหอมมะลิ”ของไทยโด่งดังไปทั่วโลก ถ้าเราเอาข้อได้เปรียบด้านการแก้กฎหมายกัญชา กัญชง มาเป็นตัวนำหน้าประเทศอื่น ด้วยการหาผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับกัญชาให้มากที่สุด เชื่อว่าทั่วโลกอยากมาเมืองไทยเพราะกัญชาอีกเท่าตัวเป็นอย่างน้อย ..นายชาติชัย ..กล่าว