วันที่ 27 ก.พ.65 หลังจากที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศเตือน มีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกําลังแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงปกคลุมบริเวณนอกชายฝั่งทางตะวันออกของประเทศมาเลเซีย ทำให้ในช่วงวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2565 มีฝนหนักและหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ก็ได้เกิดสถานการณ์ฝนตกทั้งวันทั้งคืนติดต่อกันนาน 3 วันแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีแต่เมฆฝน ไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ แสงแดดส่องลงไม่ถึงพื้นดิน น้ำในคลองเบตงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น เป็นสีแดงขุ่น ในขณะที่บริเวณจุดชมวิวสองแผ่นดิน ถนนเลียบแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านกาแป๊ะฮูลู ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ อ.เบตง จ.ยะลา ที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวดินทางมาชมทัศนียภาพทิวทัศน์มุมสูงของเมืองเบตง ชมความงามของพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจากฝั่งของ อ.บาลิง รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย และชม ทะเลหมอกในยามเช้า ได้เกิดรอยร้าวขึ้น บนยอดเขาเป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากด้านล่างบริเวณพื้นถนนเลียบชายแดน คาดว่าด้านบนยังมีรอยร้าวอีกหลายจุด สาเหตุอาจเกิดจากฝนตกติดต่อกันเนินนาน ทำให้ดินบนเขาอุ้มน้ำจนเกิดปูนแตกร้าว และอาจเกิดสไลด์ลงมาได้ บริเวณดังกล่าว ก็ยังมีป้ายติดแจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวว่า ขอความร่วมมือ งดขึ้นบริเวณเขาหินปูน เนื่องจากเส้นทางชำรุดและอาจเกิดอันตราย

สำหรับที่จุดชมวิวสองแผ่นดิน ถนนเลียบแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย บ้านกาแป๊ะฮูลู ความจริงแล้ว กรมทางหลวงได้สร้างถนนเลียบแนวชายแดนไทย-มาเลเซียขึ้นเพื่อให้ประชาชนสะดวกในการคมนาคม แต่เนื่องจากบริเวณนี้เป็นภูเขาสูง เวลาที่ฝนตกมักจะเกิดดินสไลด์ลงมาทับเส้นทางเป็นประจำ กรมทางหลวงจึงแก้ไขด้วยการสร้างดาดคอนกรีตซึ่งเป็นหน้าผาปูนซีเมนต์ เพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะหน้าดิน ป้องกันดินสไลด์ที่อาจเกิดขึ้น จึงเกิดความสวยงาม ทำให้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก จนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของ อ.เบตง ทั้งๆที่กรมทางหลวงนำป้ายไปติดห้ามไม่ให้ขึ้นไปบนเขา แล้วก็ตามเพราะเกรงว่า จะเกิดอันตรายกับผู้คนที่ขึ้นไป แต่ก็ยังมีผู้คนฝ่าฝืนขึ้นไปตลอดโดยไม่สนใจป้ายแจ้งเตือน ยิ่งในช่วงนี้ซึ่งเกิดฝนตกติดต่อนานหลายวันทำให้ดินอุ้มน้ำ จนบนยอดเขาเกิดรอยร้าวขึ้น ยิ่งอันตราย เพราะดินอาจจะสไลด์ลงมาเมื่อไหร่ก็ได้