วันที่ 23 ก.พ. 65 ยายวัย 51 ปี พร้อมด้วยอาจารย์โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้พานักเรียนสาววัย 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.รุ่งเกียรติ นาทัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อวานที่ผ่านมา เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับตนเองและครอบครัว หลังจากที่นักเรียนสาววัย 16 ปี และเพื่อน ตรวจพบติดเชื้อไวรัส โควิด 19 ถูกส่งไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ได้ไปพบกับผู้ป่วยชายวัย 17 ปี รายหนึ่ง ที่อายุไล่เลี่ยกันอยู่ที่เตียงฝั่งตรงข้าม เข้ามาพยายามพูดคุญตีสนิท จากนั้นได้พยายามมุดมุ้งเข้ามานั่งพูดคุยอย่างใกล้ชิด และพยายามลวนลามกระทำอนาจารหลายครั้ง แต่นักเรียนสาวไม่เล่นด้วย และนำเรื่องไปบอกกับเพื่อนที่เข้ามารับรักษาตัวด้วยกันให้ช่วยกันระวัง ก่อนจะรักษาหายจนกลับบ้านได้ แต่ยังไม่วายหนุ่ม 17 ปี คนดังกล่าวยังพูดขู่ตนเองก่อนออกจากโรงพยาบาลสนามว่า ถ้าออกจากโรงพยาบาลสนามเมื่อไหร่จะบุกไปหาถึงที่บ้าน สร้างความหวาดระแวงให้กับตนเองและครอบครัว เกรงว่าจะไม่เกิดความปลอดภัย
จากการสอบถาม นางสาววาสนา อายุ 51 ปี ยายของผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า หลานของตนเอง บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนของวันที่ 16 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งเล่นอยู่ที่เตียงนอนภายในโรงพยาบาลสนาม โดยมีเพื่อนที่ป่วยด้วยกันพักอยู่ใกล้ ๆ ส่วนชายวัยรุ่นที่ก่อเหตุพักอยู่ตรงข้าม โดยวัยรุ่นคนดังกล่าวได้เข้ามาพยายามจะลวนลามโดยการจับมือจับขา หลานตนเองได้โวยวายร้องเรียกให้เพื่อนมาช่วย ทำให้วัยรุ่นชายไม่พอใจเตะพัดลมได้รับความเสียหาย ตอนนี้หลานสาวของตนเองมีความหวาดระแวงเป็นอย่างมาก เพราะถูกขู่เอาไว้ว่าออกจากโรงพยาบาลสนามเมื่อไหร่จะบุกไปที่บ้านและโรงเรียน ตนเองก็ได้แต่บอกกับหลานให้ระวังตัวไม่ให้ไปไหนคนเดียว ก่อนที่จะเดินทางไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลช่วยเหลือ
ด้าน น้องเอ นักเรียนสาววัย 16 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มกว่าของวันที่ 16 ก.พ. หลังจากตนเองกำลังจะเข้านอน ชายวัยรุ่น 17 ปี ลักษณะสูง ผอม ผมยาว คนดังกล่าว ได้เข้ามาพูดคุยที่มุ้งตนเอง แล้วพยายามกระทำอนาจาร โดยการใช้มือจับตามร่างกายของตนเอง ตนเองพยายามดันออกไป ซึ่งเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ได้มาเข้ามาช่วยให้ออกไป แต่ชายวัยรุ่นนั้นไม่พอใจ ซึ่งตนเองอยากให้โรงพยาบาลสนามแยกโซนของผู้ป่วยฝั่งชาย หญิง ให้ชัดเจน จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
เบื้องต้นทางผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามไปยัง นาย วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ผ่านทางเลขานุการ แจ้งว่าทางจังหวัดอ่างทอง ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะหามาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาอีก แต่ยังไม่ระบุว่าฝ่ายใดผิดหรือถูก ต้องรอทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้ในโรงพยาบาลสนาม ว่าในคืนดังกล่าวมีเหตุการณ์เกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.