สืบเนื่อง เมื่อเวลา 00.20 น. (13 ก.พ.) พล.ต.ต.สถพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผู้กำกับตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และ สภ.เมืองอุบลราชธานี สภ.วารินชำราบ ร่วมกับ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าตรวจสอบร้านอาหารกึ่งผับ รียูเนียน บาร์ แอนด์ เรสเตอรองท์ ภายในศูนย์การค้าอุบลสแคว์ หลังพบว่ามีการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น และเปิดเกินเวลา ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดอุบลราชธานี ตามมาตรการป้องกันโควิด 19
จากการเข้าปิดล้อมพบภายในร้านยังมีการเปิดดนตรีเสียงดัง มีกลุ่มวัยรุ่นนักเที่ยวชายหญิง ว่า 100 คนกำลังนั่งทานอาหาร และดื่มสุรา อยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นพบตรวจสอบมีขวดเครื่องดื่มสุรา ประเภทเหล้า เบียร์ วาย จำนวนมากอยู่บนโต๊ะ และบริเวณพื้นทางเดินเจ้าหน้าที่พบซองพลาสติกใส ขนาด 1X1.5 ภายในมีผงสีขาวลักษณะคล้ายยาเสพติด ตกอยู่บนพื้น จำนวน 3 ซอง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการถ่ายรูปตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของพนักงานเจ้าหน้าที่ในร้านพบมีผลเป็น บวก 3 ราย แต่ทั้งหมดให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงทำการเก็บตัวอย่างปัสสาวะเพื่อนำส่งศูนย์วิทยาศาสตร์ พิสูจน์อย่างละเอียดก่อนปล่อยตัวไป
สำหรับร้านรียูเนียน เป็นร้านอาหารกึ่งผับ มีนางสาวเนตรทราย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวนางสาวเนตรทราย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาเปิดสถานบริการเกินเวลา ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 33240/2564 ห้ามดื่มสุราในร้านค้าและห้ามเปิดเกิน 23.00 น. ซึ่งก่อนหน้าร้านดังกล่าวถูกระบุว่าเป็น 1 ในกลุ่มครัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับ จนถูกคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งความดำเนินคดีเมื่อเดือนมกราคม ก่อนมทาเปิดให้บริการใหม่
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันควบคุมที่ 10 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ยังคงออกตรวจค้นเชิงรุกกับพ่อค้า แม่ค้า ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบตลาดสดเทศบาลเมืองวารินชำราบ หลังพบคลัสเตอร์จากแม่ค้าที่มาขายของ ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ตลาดแห่งนี้แล้ว 61 คน และยังแพร่ระบาดไปยังตลาดวารินเจริญศรีที่อยู่ใกล้เคียงอีก 53 คน เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษา
สำหรับการแพร่ระบาดของตลาดทั้ง 2 แห่ง เป็นการระบาดในรอบที่ 2 โดยครั้งแรกเกิดเมื่อปีก่อน มีผู้ติดเชื้อรวมกันกว่า 400 คน วันนี้ ยังพบผู้ป่วยยืนยันจากการตรวจ PCR 173 คน ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรอบใหม่ 11,482 คน อยู่ระหว่างรักษา 2,677 คน มีอาการหนัก 9 คน เสียชีวิต 21 คน และการติดเชื้อส่วนมากเกิดจากงานศพ งานบุญ งานวันเกิด แล้วนำเชื้อแพร่สู่คนในครอบครัวและในชุมชนมากที่สุด
©2018 CK News. All rights reserved.