นายนัยน์เนตร อายุ44 อาชีพทำสวน ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ. ศักดิ์ชัย มีพูล พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ พร้อมด้วยทนายความและญาติๆ อีกจำนวนหนึ่งว่า ตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองผู้กำกับทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บหลายแห่งขณะถูกควบคุมตัว
โดยเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2564 ตนเอง ซึ่งเป็นเจ้าของสวนยางพาราได้ไล่คนกรีดอย่างออกไปหนึ่งคน ด้วยปัญหาด้านการทำงาน จากนั้นไม่นานก็มีหมายเรียกจากตำรวจว่าตนใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ชาวบ้านตนเองจึงเดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจจนกระทั่ง เมื่อวันที่ 4มกราคม 2565 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าสำนวนไม่พอสั่งฟ้องขอให้เดินทางมาพบที่สถานีตำรวจอีก ตนจึงได้เดินทางไปพร้อมกับ น.ส.จรรยารัตน์ อายุ 38 ปี แฟนสาวแต่ได้นั่งรออยู่ในรถ หน้าสถานีตำรวจ จากนั้น นายตำรวจพร้อมด้วยตำรวจบ้านอีกคนได้พาตนขึ้นรถของตำรวจไปที่บ้านพักเพื่อค้นหาอาวุธปืน ตนจึงได้มอบอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปืนของตนเองและมีอนุญาตถูกต้องให้กับตำรวจนายดังกล่าว
จากนั้นแทนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพากลับมายังโรงพักแต่ได้ขับรถเลยไปอ้างว่าจะไปเติมน้ำมันแต่ก็ยังขับเลยปั๊มน้ำมันไปใน ซอยบ้านแม่โมกข์ ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลพลายวาส ตนเองเห็นผิดสังเกตจึงได้ทักท้วงและขอลงจากรถกลับได้รับคำข่มขู่กลับมาพร้อมทั้งถูกชกต่อยตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ตนดิ้นรนต่อสู้จนกระทั่งหนีออกมาได้จากรถคันดังกล่าว แล้วโทรไปหาแฟนสาวซึ่งนั่งรออยู่ในรถที่หน้าสถานีตำรวจภูธรกาญจนดิษฐ์ให้มารับตัวกลับบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ติดตามตัวแต่อย่างใด รวมถึงอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวก็ยังคงอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้น ที่ยังไม่ได้มีการบันทึกตรวจยึดแต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล เพื่อตรวจร่างกายโดยแพทย์ลงความเห็นว่าร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
วันนี้จึงได้เดินทางมาพร้อมกับทนายเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.กิตติพิชญ์ บุญสุข ทนายความ กล่าวว่า ได้แจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายตำรวจคนดังกล่าว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ,กักขังหน่วงเหนี่ยว และปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งในชั้นนี้พนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะดำเนินการรับร้องทุกข์ และรวบรวมเอกสาร พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่งให้ ปปช.เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
©2018 CK News. All rights reserved.