สาวใหญ่รับจ้างบรรจุลูกบอลไล่นกระเบิดบ้านพัง บาดเจ็บสาหัส


28 ธ.ค. 2564, 16:37

สาวใหญ่รับจ้างบรรจุลูกบอลไล่นกระเบิดบ้านพัง บาดเจ็บสาหัส




ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.ท.ฐานันดร์ กาญจนวิลัย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุพลุระเบิดมีคนเจ็บสาหัสบ้านพังเสียหายที่บ้านโรงช้าง หมู่ 2 ต.ศาลาขาว จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัธชัย ทิพเนตร ผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) กำลังฝ่ายสืบสวน รดน้ำดับเพลิงเทศบาลสวนแตง หน่วยกู้ภัยสมาคมร่วมใจสวนแตง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง เลขที่ 81/1 หมู่ 2 ต.ศาลาขาว สภาพพังเสียหายทั้งหลังส่วนคนเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ไปก่อนหน้า ทราบชื่อนางกิมเลี้ยง มาตรศรี 44 ปี สภาพถูกไฟคลอกมีแผลพุพองทั่วร่าง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำเชือกกั้นบริเวณที่เกิดเหตุไว้ไม่ให้คนที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าใกล้เพราะกลัวจะเกิดเหตุระเบิดซ้ำขึ้นอีก จากการตรวจสอบเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบลูกบอลที่ใช้สำหรับจุดไล่นกและที่บรรดาวัยรุ่นใช้จุดโยนยามค่ำคืนกระจายเกลื่อนจำนวนมาก ที่โคนเสาบ้านซึ่งเป็นเสาปูนแตกเป็นเสี่ยงหลายจุด ส่วนตัวบ้านซึ่งเป็นฝาไม้รวมทั้งหลังคาแตกกระจายข้าวของภายในบ้านพังเสียหายทั้งหมด



พล.ต.ต..เกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเจ้าของบ้านเกิดได้รับจ้าง นำดินปืนที่ใช้สำหรับทำพลุ ตะไล ไฟพะเนียง มาบรรจุลูกบอล เป็นการหารายเสริมที่บ้านโดยบ้านเกิดเหตุอยู่กัน 4 คนแต่ขณะเกิดเหตุอยู่กัน 2 คนคือคนเจ็บกับลูกสาววัยประมาณ 5 ขวบขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาแหล่งที่มาของดินระเบิดว่าเอามาจากที่ไหน เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่เหตุเกิดภายในบ้านของตัวเอง จึงไม่มีคนอื่นได้รับบาดเจ็บและโชคดีที่ลูกสาวผู้บาดเจ็บซึ่งอยู่บนบ้านไม่ได้รับอันตราย อย่างไรก็ตามขอฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ทางตำรวจได้เข้มงวดกวดขันเรื่องการจุดพลุดอกไม้ไฟ ทุกอย่าง ถ้าท่านนำมาจุดเล่นก็จะมีความผิดตามกฎหมายโดยเฉพาะการยิงปืนขึ้นฟ้า ที่บางคนเชื่อว่ายิงปืนเสียงดังแล้วจะเกิดบารมี แต่ขอบอกว่าบารมีไม่เกิดแต่จะเกิดเหตุกระสุนตกลงมาใส่คนเสียชีวิตท่านก็จะโดนข้อหาเจตนาฆ่าคนตายทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้กวาดล้างอาวุธปืนป้องกันการเกิดอาชญากรรมเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนขอความร่วมมืออย่าจุดพลุ อย่างยิงปืนขึ้นฟ้าโดยเด็ดขาด

นางสุนทร แย้มพะนุ้ย อายุ 66 ปีญาติเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุซึ่งมีบ้านอยู่ห่างเพียง 50 เมตรเล่าว่าคนเจ็บเป็นเป็นหลานสะใภ้อยู่กัน 4 คนแต่สามีและลูกชายไปทำงานต่างจังหวัดจึงเหลือเพียงคนเจ็บและลูกสาววัย 5 ขวบเศษขณะเกิดเหตุลูกสาวคนเจ็บอยู่บนบ้านส่วนคนเจ็บอยู่ที่ใต้ถุนบ้านช่วงสายประมาณ 08.30 น.ตนได้ ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว 3 ครั้งจึงออกมาดูก็พบว่าบ้านของหลานพังเสียหายทั้งหลังก็ตกใจ ปกติคนเจ็บมีอาชีพขายขนมส่วนบรรจุลูกบอลนั้นตนไม่ทราบว่าเขาเอามาทำตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตกใจมากทำอะไรไม่ถูก

ทางด้านนางถวิล ปุชิตะ อายุ 71 ปีบ้านอยู่ห่างกันประมาณ 80 เมตรเล่าว่าตนได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้งจึงรีบออกมาดูก็เห็นบ้านของคนเจ็บพังมีควันลอยออกมาด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็เห็นคนนอนแน่นิ่งสภาพร่างเปลือยเปล่ามีแผลถูกไฟลวกทั่วร่างกายตนทำอะไรไม่ถูกได้แต่หาผ้ามาคลุมร่างคนเจ็บไว้จากนั้นไม่นานได้มีชาวบ้านและกู้ภัยมาช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล ช่วงนั้นตนคิดอย่างเดียวคือเป็นห่วงคนเจ็บลืมคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองไปเลยว่าถ้าลูกปิงปองเกิดระเบิดซ้ำขึ้นอีกจะเป็นอย่างไร


นายวินัย ชิ้ววงษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ศาลาขาว เล่าว่าบ้านหลังดังกล่าวรับดินระเบิดมาบรรจุลูกบอลนานแล้วตนเคยเข้ามาเตือนแล้วและก็เลิกไปแล้วแต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าแอบลักลอบเอามาทำหรือไม่ ในพื้นที่ หมู่ 2 และหมู่ 3 ต.ศาลาขาว มีโรงงานผลิตพลุที่มีใบอนุญาตอยู่ 2 แห่ง ซึ่งตนไม่รู้ว่าคนเจ็บรับมาจากโรงงานไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเหตุพลุระเบิดในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี นั้นเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนเกิดขึ้นทั้งในโรงงานรายใหญ่ ที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง และแอบลักลอบผลิต เหตุเกิดแต่ละครั้งจะมีทั้งคนเจ็บทรัพย์สินเสียหาย ที่ร้ายคือมีผู้เสียชีวิตหลังเกิดเหตุก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจจากนั้นเรื่องก็เงียบและก็เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่แบบนี้มานับ 20 ปี


คำที่เกี่ยวข้อง : #ระเบิด  









©2018 CK News. All rights reserved.