วันนี้(11 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากนางสาว สไบทอง มีอำนาจ อายุ25 ปี บ้านเลขที่643/4 หมู่ที่ 10 ต.ระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ว่าได้ถูกอดีตแฟนเก่าที่เคยอยู่กินด้วยกันมานานถึง 5 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน ขณะอยู่กินด้วยกัน ก็มีเรื่องถกเถียงกันบ่อยครั้งจนถึงเข้าชกต่อย ทำร้ายทุบตีตนเองจนได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นประจำบางครั้งถึงกับเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล
หลังจากนั้นตนเองจึงขอแยกทางออกมาอยู่กับแฟนใหม่ที่หมู่บ้าน ต.ยางอ.ศีขรภูมิ และอยู่กันมาได้ประมาณ 3 เดือนแฟนเก่าก็ตามมารังควานบางครั้งก็ขับรถใช้ขวดปาเข้ามาที่หน้าต่าง บางครั้งก็โยนระเบิดขวดใส่หน้าบ้านของตนเองซึ่งในเวลากลางคืนซึ่งตนเองเคยได้ไปแจ้งความเอาไว้ ที่ สภ.ศีขรภูมิ แล้วแต่ไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะอดีตแฟนเก่าเคยขู่เอาไว้ว่าถึงไปแจ้งความก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะตำรวจรู้จักกับตนเองดีพร้อมกับบอกว่าไม่กลัว
เมื่อคืนวันที่10 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.15น.ได้เกิดเหตุมีคนร้ายปาระเบิดขวดเข้าไปที่บ้านของนางสำรวย เหล่าดี อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 64 บ้านยาง ม.1ต.ยางอ.ศีขรภูมิ ระเบิดได้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นภายในรั้วบ้านจึงได้ตะโกนให้ชาวบ้านที่อยู่บ้านข้างเคียงออกมาช่วยกันดับไฟหลังจากเกิดเหตุก็มีเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์แจ้งไปยัง สภ.ศีขรภูมิ แต่เรื่องก็เงียบหายไปเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และเมื่อคืน(11 ธ.ค.64) ที่ผ่านมาเวลา 02.28น.ได้มีคนขับรถยนต์มาและได้ขวางขวดเบียร์เข้ามาที่บ้านจนขวดเบียร์แตกระเอียดซึ่งคาดว่าจะไม่ใช่ใครก็คงจะเป็นอดีตแฟนเก่าคนเดิมแน่นอนซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น ชาวบ้านที่อยู่ข้างบ้านข้างเคียง เอือมระอากับปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจึ่งวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ถ้าหากไม่สามารถนำตัวไปดำเนินคดีได้ปัญหาต่างๆก็จะตามมาอย่างไม่มีสิ้นสุดนางสาวสไบทอง กล่าว
ล่าสุด(11 ธ.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศีขรภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ในช่วงนี้อยู่ในระหว่างการสับเปลี่ยนระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงกันอยู่และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ศีขรภูมิ ก็มีกำลังน้อยและได้ออกกวาดล้างอาชญากรรมเพื่อสนองนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยเมื่อวานนี้ ก็จับนักพนันไก่ชนและกวาดล้างแรงงานต่างด้าวได้จำนวนหนึ่งและเพิ่งทราบข่าวว่าชาวบ้านมีความเดือดร้อนกับเรื่องดังกล่าวทางชุดสืบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจจะเข้าไปตรวจสอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้ตัวคนร้ายอย่างแน่นอนจากการตรวจดูกล้องวงจรปิดคาดจะได้ตัวคนร้ายที่มาก่อเหตุอย่างแน่นอน
©2018 CK News. All rights reserved.