จากกรณีฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี ที่ผ่านมามีจำนวน 7 อำเภอ รวม 36 ตำบล201 หมู่บ้าน มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 9052 ครัวเรือนจำนวน 28100 คน นั้น แม้วันที่ 30 พฤศจิกายน ฝนได้หยุดตก แต่ยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมนายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนาผอ.ศูนย์ ปภ.เขต 11 และนายจำนง สวัสดิ์วงศ์ปภ.จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านคลองโร ต.พ่วงพรมคร อ.เคียนซา นำถุงยังชีพไปมอบให้ชาวบ้านที่อพยพขนย้ายสิ่งของมาพักอาศัยชั่วคราวที่ศาลาหมู่บ้านและปรุงอาหารบนรถครัวเคลื่อนที่ของศูนย์ ปภ.เขต 11 ที่ทำอาหารกล่องแจกจ่ายวันละ 1,000 กล่อง จากนั้นร่วมกับหน่วยนพค.46 และกรมทหารราบที่ 25 ลงเรือไปยังชุมบ้านขอนพอหมู่ที่ 2 ตำบลไทรขึง อำเถอพระแสง ที่ยังคงมีประชาชนจำนวนกว่า 100 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมและถูกตัดขาดจากโลกภายนอก หนึ่งจากหมู่บ้านดังกล่าวอยู่ริมคลองอีปั่นซึ่งรับน้ำจากจังหวัดกระบี่และน้ำในพื้นที่ทำให้น้ำยังคงท่วมขังอยู่อีกเป็นจำนวนมากบางแห่งสูงถึง 1 เมตร ทำให้หมู่บ้านดังกล่าวมีสภาพเป็นเกาะไม่สามารถ ใช้รถสัญจรได้นอกจากใช้เรือเพียงอย่างเดียว เท่านั้น
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า ได้ประเมินสถานการณ์ปริมาณน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำ จ.นครศรีธรรมราช ที่ยังมีฝนยังตกอยู่และจะไหลมาลงพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อีกก่อนจะออกสู่ทะเลที่อ.พุนพิน จึงได้ประกาศเตรียมความพร้อมให้ประชาชนเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง รวมทั้งกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ให้ดูแลจุดพักพิงประชาชนมีความปลอดภัยที่สุด โดยได้รับสนับสนุนเครื่องผลักดันน้ำกรมชลประทาน 52 เครื่องเร่งระบายน้ำสู่ทะเล ก่อนมวลน้ำชุดใหม่จาก จ.นครศรีธรรมราชจะไหลลงมา
©2018 CK News. All rights reserved.