วันที่ 17 พ.ย. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้ออกแถลงการณ์ กรณีพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ ต.บ้านโป่ง อ.งาว ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอทางตอนบนของจังหวัด โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในวงคลัสเตอร์นี้แล้ว จำนวน 33 ราย และคาดว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยผู้ป่วยติดเชื้อรายแรก เป็นชายไทย อายุ 48 ปี พนักงานขับรถขนส่งปูนของบริษัทเอกชน มีประวัติเดินทางขับรถบรรทุกปูนไปรับ – ส่ง หลายพื้นที่ ได้แก่ โรงปูนใน อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง , พื้นที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และพิษณุโลก และยังขับรถข้ามไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วย
 

โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน หลังกลับมา เริ่มมีอาการ มีไข้ ไอเป็นเสมหะ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ จมูกได้กลิ่นลดลง แต่ยังไม่ได้ไปตรวจ จากนั้นวันที่ 11 พฤศจิกายน ได้เดินทางไปส่งปูนที่ประเทศลาว อีกครั้ง และได้รับการตรวจหาเชื้อแบบ RT – PCR ก่อนเดินทางกลับมายัง จ.ลำปาง ในวันถัดมา กระทั่งบริษัทที่ประเทศลาว ได้โทรศัพท์มาแจ้งผล ว่า ติดเชื้อ จึงได้เดินทางไปตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลงาว จ.ลำปาง ยืนยันว่า ติดเชื้อจริง จึงเข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภองาว และโรงพยาบาลงาว ได้เร่งคัดกรองโรคเชิงรุก พบผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง 298 ราย ผลตรวจพบเชื้อ 13 ราย และพบผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 445 ราย ก็ได้รับการตรวจหาเชื้อเช่นกัน ผลตรวจพบว่า ติดเชื้ออีก 19 ราย ทำให้การระบาดกลุ่มก้อนนี้ ติดเชื้อสะสมไป 33 ราย สำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการควบคุม ป้องกัน และเฝ้าระวัง ด้วยการออกค้นหา คัดกรองโรคเชิงรุกต่อเนื่อง และให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงแยกกักตัวเองตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

จากการติดเชื้อ และแพร่ระบาดดังกล่าว เกิดจากผู้ป่วยรายแรก ที่มีอาชีพขับรถบรรทุกเดินทางไปมาหลายจังหวัด และต่างประเทศ แล้วกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัว ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปสู่บุคคลภายในครอบครัว ภายในชุมชน และโรงเรียน ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่า มีการรับประทานอาหารร่วมกัน , อาศัยอยู่ร่วมกัน และไม่รักษาระยะห่างระหว่างอยู่ร่วมกัน