ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 1 มี.ค. 62 ที่ลานอเนกประสงค์ หลังสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี ริมแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลเมืองท่าข้าม พุนพิน สุราษฎร์ธานี นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษา พรรคประชาธิปัตย์ นำขุนพลของพรรประชาธิปัตย์ ประกอบด้วยนายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.ตรัง นายสุนทร รักรงค์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.ชุมพร เปิดเวทีปราศัย ช่วยนายสมชาติ ประดิษฐพร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส .เขต 4 สุราษฎร์ธานี ที่มีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ได้ออกจากพรรคไปลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทย โดยมีผู้รับฟังกว่า 1000 คน

โดยนายชวน ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศัย ตอนหนึ่งว่า ปชป ถูกดูด สส ไปมากจึงต้องหาคนใหม่มาลงสมัคร และการแบ่งแยกออกไปของอดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลายคน ทำให้แข่งขันกันเองในหลายเขตพื้นที่ เช่นที่ จ.ชุมพร จึงได้พูดคุยกับ นายชุมพล จุลใส ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ที่ต้องแข่งขันกับพี่ชาย ที่ลงสมัครในนามพรรครวมพลังประชาชาติไทย ว่าในภาวะผู้นำจะเลือกพรรค หรือพี่น้อง ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานีเอง ก็มีถึง 3 เขต ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายที่ต้องมาแข่งกันเอง อย่างนาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ผ่านมา มั่นคงต่อพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด จนกระทั่งอย่างที่เห็น เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา แต่มาแบ่งแยกออกไป ตอนนี้อยากสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทน ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งขอฝาก นายสมชาติ ประดิษฐพร หรือ สจ.อ้อย คนรุ่นใหม่ในเขต 4 ไว้ด้วย รวมถึงเขตอื่นๆที่มาทดแทนคนเดิมที่แยกออกไป ในเมื่อพรรคพวกของท่านสุเทพออกไปเพราะต้องไปช่วยพี่น้อง พรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นกำลังสำคัญผิดหวังไม่ได้ จึงต้องมีการคัดคนรุ่นใหม่เข้ามา เพราะคนของพรรคถูกดูดไปถึง 17 คน และยังกล่าวถึงรัฐบาลพลเอกประยุทย์ ว่าตอนเข้ามาใหม่ๆก็ด่าแต่นักการเมืองในที่สุดก็มาเป็นเสียเอง

สำหรับนโยบายของพรรที่สำคัญอีกอย่างคือพืชผลทางการเกษตรพรรคประชาธิปัตย์จะใช้วิธีการประกันรายได้โดยไม่ประกันราคา ด้วยการชดเชยราคาให้เกษตรกร สิ่งที่รับปากกับประชาชนจะมั่นใจว่าทำได้อย่างแน่นอน

 

โดยนายชวนได้ใช้เวลาปราศรัยประมาณ 1 ชม ก่อนจบการปราศรัย ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนไว้ช่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ที่สุดว่าพี่น้องประชาชนจะช่วยผู้สมัคร สส ของพรรคประชาธิปัตย์

จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ มองว่าประชาชนยังคงยึดอยู่กับ ประชาธิปัตย์เป็นส่วนใหญ่ และโดยส่วนตัวก็อยากจะไปพบประชาชน มีความผูกพันอันยาวนาน สำหรับการปราศรัยหาเสียงก็จะพูดความจริงกับชาวบ้าน สิ่งที่เป็นไปได้จริง จากการที่ต้องสรรหาคนใหม่มาลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต้องเหนื่อยหน่อยแต่ก็ยังได้รับความตอบรับจากประชาชน อีกทั้งยังพูดติดตลกว่าในภาคใต้มีอยู่ 50 เขตก็คงจะได้ สส ไม่เกิน 50 เขตเลือกตั้ง ประเมินไว้น้อยหากได้ สส มากกลัวคนจะว่าเอา