วันที่ 12 พ.ย.64  นายชาญยุทธ ตรีศัพท์  แกนนำชาวนาในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นอุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย   เปิดเผยว่า  พื้นที่แปลงนาข้าวของ จ.พระนครศรีอยุธยา มีประมาณ 1 ล้านไร่ โดยถูกน้ำท่วมในปีนี้   ไปเกือบครึ่ง   แต่แทบจะไม่มีผลผลิตเสียหาย เพราะว่าชาวนาทั้งจังหวัด  ได้ให้ความร่วมมือในการเก็บเกี่ยวข้าวให้แล้วเสร็จก่อน 15 กันยายนของทุกปี เพื่อเสียสละให้ใช้ที่นา ทำเป็นแก้มลิงตามธรรมชาติ

และในขณะนี้ สภาพน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำป่าสัก แม่ล้ำลพบุรี  เริ่มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง  ส่วนน้ำในทุ่งนา  คงต้องรอให้น้ำในแม่น้ำ  ได้ลดระดับต่ำลงกว่านี้  จึงจะมีการปล่อยน้ำออกจากทุ่งนาแก้มลิงออกไปได้  ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป

จากนั้นราวเดือนธันวาคม ชาวนาจะเริ่มเตรียมพื้นที่นา  เพื่อเพาะปลูกข้าวนาปรังในทันที  โดยประมาณการว่าช่วงปีใหม่นี้  หรือไม่เกินกลางเดือนมกราคมที่จะถึง จะต้องมีการหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวลงแปลงนาให้แล้วเสร็จ และอาศัยน้ำค้างทุ่งนา  ที่ได้มาจากน้ำท่วมครั้งนี้   เป็นน้ำต้นทุนในการทำนาปรังรอบใหม่

ซึ่งส่วนใหญ่ชาวนา จะเพาะปลูกข้าวสายพันธุ์ กข-85 มีอายุการเพาะปลูก 110-120 วัน หรือ 4 เดือน  ระยะเก็บเกี่ยวในราวต้นเมษายน โดยหากเพาะปลูกได้ตามนี้  ก็จะเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ   ก่อนเข้าสู่ภาวะภัยแล้งตามฤดูกาล  จากนั้นชาวนาจะพักแปลงนาข้าวประมาณ 1-2 เดือน

และเมื่อถึงหน้าฝน ก็จะเริ่มเพาะปลูกข้าวรอบ 2 ของปี คือช่วงปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน จะต้องเตรียมแปลงนาข้าวและเริ่มเพาะปลูกทันที  เพื่อเก็บเกี่ยวข้าวรอบ 2 ก่อนวันที่ 15 กันยายน  โดยหากเป็นไปตามกำหนดการแบบนี้ พวกเราชาวนาภาคกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่แก้มลิงตามธรรมชาติ  จะสามารถทำนาปรังได้ปีละ 2 ครั้ง