เมื่อวันที่ 20 กันยายน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐมีมติเห็นชอบให้ทบทวนกรอบสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% เป็นไม่เกิน 70% ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ทางการคลังให้กับรัฐบาล และไม่เป็นอุปสรรคหากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงิน เพื่อดำเนินนโยบายการคลังในระยะปานกลาง โดยยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในเกณฑ์ดี
“การทบทวนกรอบสัดส่วนการบริหารหนี้สาธารณะครั้งนี้เป็นไปตามความในมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ที่กำหนดให้ทบทวนสัดส่วนต่างๆ อย่างน้อยทุกสามปี” นายอาคมกล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การปรับเพดานหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการใช้เงินกู้ในการดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากนี้ รวมถึงรองรับการตั้งงบประมาณขาดดุลในปีงบประมาณ 2565 ที่ต้องตั้งงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้น เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย หลังปรับกรอบเพดานหนี้แล้วจะต้องปรับแผนลดรายจ่าย หรือแผนการเพิ่มรายได้ เพื่อรักษาสมดุลทางการคลังอีกครั้ง หากได้ข้อสรุปแล้วคาดว่ากระทรวงการคลังจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 กันยายนนี้ทันที
©2018 CK News. All rights reserved.