เพื่อไทยขนขุนพลชุดใหญ่ปราศรัยที่อุดร โดยวันนี้ (23 ก.พ.62) ผู้สื่อข่าว ONBNews รายงานว่า ที่ลานกิจกรรมศูนย์การค้า 168 แพลตินั่ม ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทยและบุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำทัพหลวงพรรคเพื่อไทย ปราศรัยหาเสียงช่ววผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 8 เขต
โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค , ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง , นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง , นายประยุทธ์ ศิริพานิช , นายอดิศร เพียงเกษ , นางลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ ,นายปลอดประสพ สุรัสวดี และ ผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ทั้ง 8 เขต โดยมีสมาชิกพรรคเพื่อไทย จากทุกเขตเลือกตั้ง มาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 1 หมื่นคน โดยมี นายดนุพร ปุณณกันต์ อดีตพระเอกละครชื่อดัง ที่หันมาเล่นการเมือง เป็นพิธีกร เรียกเสียงกรีดจากแฟนคลับตลอดเวลา
แกนนำของพรรคผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นปราศรัยถล่มรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำให้ประชาชนยากจน ทำให้ได้เรียกเสียงโห่ฮาตลอด โดยเฉพาะนายอดิษร เพียงเกษ ได้ขึ้นปราศรัยถล่มรัฐบาลปล้นประชาธิปไตยจากประชาชน ปกครองประเทศมากว่า 5 ปี และอยากจะมีอำนาจต่อ เรียกร้องให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยชี้ชะตาประเทศไทย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเป็นมือสมัครเล่น ไม่ใช่มืออาชีพ ให้ออกไป
จนถึงเวลา 15. 51 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และ นายพานทองแท้ ชินวัตร เดินทางมาถึงเวที มีการเปิดเพลงพรรคเพื่อไทย ขณะที่ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ฯ และ นายพานทองแท้ฯ ต้องเดินฝ่าฝูงชนจำนวนมาก ที่เข้ามาสวมกอด คล้องพวงมาลัย ผูกผ้าขาวม้า ขอจับมือ โดยมีเสียงโห่ร้อง ปรบมือต้อนรับยาว โดยทั้งคู่ได้เดินไปจับมือกับประชาชน และนายพานทองแท้ฯ ได้ขึ้นเวที ไหว้และโบกมือทักทายประชาชน แต่ไม่มีการกล่าวปราศรัย จากนั้นทาง คุณหญิงสุดารัตน์ฯ ได้ขึ้นเวที พร้อมหยอดคำหวานเป็นภาษาอีสานว่า "คิดฮอดเด้อ" และได้แนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.อุดรธานี ทั้ง 8 เขต อีกครั้ง
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า หลังจากที่รัฐบาลเผด็จการมายึดอำนาจประชาธิปไตยของประชาชนไป และบอกว่าจะใช้เวลาอีกไม่นาน แต่บังเอิญนาฬิกายืมเพื่อนมา มันไม่เดินมันเสีย เลยอยู่มาอีกไม่กี่เดือนก็ 5 ปีแล้ว 4-5 ปีมานี้พี่น้องจะรู้สึกได้เอง ว่าอยู่อย่างมีความสุขหรือเปล่า ทุกคนรู้อยู่แก่ใจ ว่ากระเป๋าตุงหรือกระเป๋าแฟบ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผู้มีอำนาจบอกว่าจะทำให้คนจนหมดประเทศไทย มาถึงวันนี้ทำสำเร็จแล้วใช่ไหม
“มีที่ไหนขึ้นทะเบียนคนจน คุยเหมือนเป็นผลงาน ปีแรกลงทะเบียนคนจน 11 ล้านคน เราคิดว่าปีต่อไปจะเหลือสัก 7-8 ล้านคน แต่ปรากฎว่าปีต่อไปขึ้นเป็น 14 ล้านคน แล้วลบอกว่าเป้าหมายจะขึ้นเป็น 17 ล้านคน ทำงานยังไงทำงานแบบนี้ ถ้าทำงานบริษัทแบบนี้โดยไล่ออกไปแล้ว ยิ่งทำคนยิ่งจน ยิงทำคนยิ่งเจ๊งมากขึ้น ตัวเลขนี้ไม่ใช่ตัวเลขเรา เป็นตัวเลขที่เขาประกาศด้วย แบบนี้ไม่ไหวแล้ว พรรคเพื่อไทยทำแบบนี้ไม่เป็น พอคนจนมากเข้าก็บอกว่าแบบนี้ต้องเยียวยาช่วยเหลือ เอาบัตรคนจนไป เอาไปรูดของผ่านมือเรา แต่เงินไปหาเจ้าสัวข้างบนโน่น แทนที่จะได้เป็นเงินไปซื้อข้าวแกงร้านข้างบ้าน ที่เขาจะได้เงินก้ไม่ได้ พวกเราเลยต้องจนกันแบบนี้ มาช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งเพิ่งคิดได้ มาแจกเป็นเงินสดนิด ๆ หน่อย ๆ แต่เพื่อไทยมาไม่อยากแจกบัตรคนจน เราอยากแจกบัตรคนรวยแทน”
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ กล่าวอีกว่า เรารู้ว่าประชาชนกำลังลำบาก เราจึงยกคณะใหญ่มาวันนี้ เพื่อขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย อุดรธานี ทั้ง 8 เขต มาให้ผู้สมัครรู้ว่า อย่าทิ้งประชาชนที่กำลังลำบาก เราต้องเข้ามาช่วย มาให้กำลังใจ มาให้กอด มาให้ฟัด มาให้หอม ซึ่งตอนนี้สินค้าเกษตรทุกอย่างราคาตก หากพรรคเพื่อไทยได้เข้ามา ภายใน 6 เดือน สินค้าเกษตรทุกอย่างราคาต้องขึ้นอย่างน้อย 30 เปอร์เซนต์ เราต้องการให้ทุกคนกระเป๋าตุง หายยากจน ซึ่งขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเข้าไป
ขณะที่วันนี้ ที่ศาลาการเปรียญ วัดศรีเจริญโพนบก บ้านธาตุ ต.บ้านธาตุ อ.เพ็ญ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียง ท่ามกลางประชาชนในเขต ต.บ้านธาตุ จำนวนกว่า 1,000 คน ทยอยเดินทางมาร่วมรับฟังการปราศรัย
นพ.วิชัยฯ กล่าวปราศรัยหาเสียง ว่าตนเป็น ส.ส.ในพื้นที่มาก่อน พรรคความหวังใหม่ 4 สมัย และพรรคไทยรักไทย 2 สมัย หลังถูกตัดสิทธิทางการเมือง และจะอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ต้องย้ายพรรคเพราะว่า ทางพรรคจะให้ตนไปลงเขตอื่น จึงตัดสินใจขอเปลี่ยนพรรค เลือกพรรคพลังประชารัฐ โดยชูนโยบายต่าง ๆ ของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งเรื่องบัตรคนจน ที่สามารถจ่ายค่าน้ำค่าไฟ สตรีลาคลอดมีเงินช่วยเหลือ การเพิ่มเงินตอบแทน อสม.และนโยบายในด้านต่าง ๆ ของพรรค
ซึ่งเขตเลิอกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอเพ็ญ, อำเภอพิบูลย์รักษ์ (ยกเว้นตำบลนาทราย) และอำเภอเมืองอุดรธานี เฉพาะตำบลนาข่า ตำบลบ้านขาว ตำบลนากว้าง ตำบลกุดสระ ตำบลหมูม่น (นอกเขตเทศบาลเมืองหนองสำโรง) ตำบลหนองบัว (นอกเขตเทศบาลตำบลหนองบัว) และตำบลสามพร้าว (นอกเขตเทศบาลตำบลหนองบัว)] มีการต่อสู้กันของ 3 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย ที่มี นายอนันต์ ศรีพันธ์ อดีต ส.ส.เดิม และจากพรรคภูมิใจไทย ที่มี นายหรั่ง ธุระพล อดีตนายก อบต.เชียงหวาง และพรรคอื่น ๆ อีก โดยมีการลงพื้นที่หาเสียงทั้งแบบเคาะประตูบ้าน และปราศรัยตามจุดต่าง ๆ //////////////
©2018 CK News. All rights reserved.