กระแส “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ปังไม่หยุด ทำยอดขายลูกชิ้นยืนกินเอกลักษณ์ของบุรีรัมย์ ที่ "ลิซ่า แบล็กพิงก์"บอกอยากกิน ยอดขายพุ่งเป็นประวัติการณ์ จากวันละร้อยเป็นหลักหมื่นบาท เพียงชั่วข้ามคืน แพคของส่งตามออเดอร์ออนไลน์ต่างจังหวัดแทบไม่ทัน แม่ค้าถึงขั้นประกาศเชิญชวน "ลิซ่า แบล็กพิงก์"มากินฟรีแทบคำขอบคุณที่ทำให้ยอดขายถล่มทลาย

16 กันยายน 2564 หลังจากที่ "ลิซ่า แบล็กพิงก์" หรือลลิษา  มโนบาล ศิลปินดังระดับโลกได้ปล่อยโซโล่เดียว MV เพลง LALISA  จนมีคนเข้าไปดูมากกว่าร้อยล้านวิว ทั้งยังได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งของไทย ว่า ถ้าได้กลับมาบ้านเกิดที่ จ.บุรีรัมย์ สิ่งคืออยากรับประทานคือ “ลูกชิ้นยืนกินสูตรน้ำจิ้มพริกเผา”  ซึ่งเป็นอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ก็ทำให้ทั้งบรรดาแฟนคลับและประชาชนทั่วไปอยากจะรับประทานลูกชิ้นยืนกินตามรอยลิซ่า   บางคนถึงขั้นลงทุนเดินทางมาลิ้มรสลูกชิ้นยืนกินถึง จ.บุรีรัมย์กันเลยทีเดียว เพื่อมาตามรอยลิซ่า 

ทั้งยังสร้างปรากฎการณ์มีออเดอร์สั่งซื้อผ่านออนไลน์แบบถล่มทลาย วันละ 300 - 400 ชุด ในราคาชุดละ 60 -100 บาท  จนบางร้านแพ็กส่งแทบไม่ทัน บางเจ้าถึงขึ้นต้องหยุดทอดขายหน้าร้านชั่วคราว เพื่อไปแพ็กส่งตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งผ่านออนไลน์ ส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายลูกชิ้นยืนกินบริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ มียอดขายวันละมากกว่า 10,000 บาท จากก่อนหน้านี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดระบาดขายได้เพียงวันละหลักร้อยบาทเท่านั้น  

จากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อค้าแม่ค้า ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  ขอบคุณน้องลิซ่า ที่ทำให้ลูกชิ้นยืนกินกลับมาขายดิบขายดีอีกครั้ง หลังจากที่ซบเซา เพราะพิษโควิดมาเป็นปี ถึงขั้นประกาศเชิญชวนให้ ลิซ่า  มารับประทานลูกชิ้นยืนกินแบบฟรีๆ เลยร้านไหนก็ได้ที่น้องลิซ่า ชอบ  เพื่อแทนคำขอบคุณที่ไม่ลืมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านเกิด

ด้านน.ส.อรุณศรี  กำเนิดกลาง  เจ้าของร้านลูกชิ้น “ยายภา”  และ น.ส.รักชนก  มณีวรรณ  เจ้าของร้านลูกชิ้น “เจ้นกกอก”  ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  หลังจากมีกระแสของลิซ่า  ก็ทำให้ลูกชิ้นยืนกินขายดีเป็นประวัติการณ์แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะมีออเดอร์สั่งผ่านออนไลน์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง วันละ 300-400 ชุด มาเกือบสัปดาห์แล้วจนบางวันแพคส่งแทบไม่ทัน ส่งผลให้ยอดขายพุ่งเพียงชั่วข้ามคืนจากช่วงโควิดขายได้วันละไม่กี่ร้อยบาท  แต่พอมีกระแสยอดขายเพิ่มเป็นหลักหมื่นก็ดีใจและขอบคุณน้องลิซ่ามาก เพื่อแทนคำขอบคุณก็เชิญชวนให้น้องลิซ่า  มาทานลูกชิ้นยืนกินฟรีเลยร้านไหนก็ได้  เพราะตอนนี้เกือบทุกร้านก็ทำน้ำจิ้มสูตรพริกเผาเหมือนที่น้องอยากกินแล้ว 

ขณะที่ น.ส.ถนอมวรรณ  สินธุรัตน์ ลูกค้าคนหนึ่ง บอกว่า  ตัวเองอยู่ จ.บุรีรัมย์ พอมีกระแสลิซ่าก็มีเพื่อนจากทั้งกรุงเทพฯ และคนรู้จักที่ชัยภูมิ และภาคใต้ โทรศัพท์มาสอบถามและฝากซื้อให้ช่วยส่งไปให้หลายคน เพราะอยากจะกินตามรอยกระแสลิซ่า สำหรับตัวเองซึ่งเป็นคนบุรีรัมย์ก็มาทานบ่อยส่วนมากก็จะยืนกินที่ร้านเพราะได้อรรถรสมากกว่า  แต่ช่วงโควิดเขามีนโยบายห้ามยืนกินก็จะซื้อไปกินที่บ้านแทน ก็อยากจะเชิญชวนให้มาลองลิ้มรสลูกชิ้นยืนกินของบุรีรัมย์  ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งลูกชิ้นที่นุ่มอร่อยและน้ำจิ้มที่รสเด็ด รับรองว่าถ้าได้มาลองทานแล้วจะติดใจ